MACEDONIA ดินแดนนอกฝัน..เที่ยวเอง “Skopje – Ohrid” เมืองฝรั่งปนแขก แตกต่างแต่ลงตัว

เที่ยวเอง รีวิว สโคเปีย โอห์ริด มาเซโดเนีย skopje struga ohrid macedonia
Macedonia คือประเทศที่ 4 ของ Greek to Roman Trip
photo credit: www.kfw-entwicklungsbank.de

เมื่อวานเราเดินเที่ยวดูบ้านเมืองของ Prizren และ Prishtina 2 เมืองของ Kosovo
ไปดูว่าโคโซโวมีอะไรน่าเที่ยวมั้ยได้ที่ KOSOVO ไปทำไม! เที่ยวเอง “Prizren – Prishtina” 2 เมืองของดินแดนอิสระน้องใหม่ของโลก

ย้อนไปอ่าน 4 รีวิวตอนก่อน คือ เที่ยวเอง Greece และ Albania ได้จากลิ้งค์ด้านล่างนี้ครับ
กรีซให้สุด..เที่ยวเอง GREECE ตอนที่ 1 “Santorini” อยากอยู่แบบนี้นานๆ ได้ไหม  
กรีซให้สุด..เที่ยวเอง GREECE ตอนที่ 2 “Athens” น่าทึ่งว่าคนโบราณเค้าสร้างเมืองกันได้ยังไง
กรีซให้สุด..เที่ยวเอง GREECE ตอนที่ 3 “Meteora” อารามลอยฟ้าอันวิเวกแห่งกรีซ  
SHQIPËRI มีอะไรให้เที่ยวเอง “Berati – Tiranë – Durrës” สามเมือง สามอารมณ์ ของอัลเบเนีย

จาก Prishtina เมืองหลวงของ Kosovo

เรียกแท็กซี่ไปสถานีรถบัสกลาง Stacioni i Autobusëve Prishtinë คนขับบอกค่ารถ 3 ยูโร (ขามาจากสถานีรถบัสแท็กซี่มิเตอร์แค่ 1.80 ยูโร)

เช้าวันนี้เราจะไป Skopje (Shkup) เมืองหลวงของประเทศ Macedonia

เส้นทางจาก Prishtina ไป Skopje ใช้รถบัสหรือรถไฟก็ได้ เราเลือกนั่งรถบัสเวลา 10 โมงตรง เป็นรถบัสเล็กหรือรถตู้ใหญ่นั่นแหละของ Amalfi Tours ซึ่งสามารถเก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไว้ท้ายรถได้ 2-3 ใบ

ซื้อตั๋วหน้างานที่สถานีรถบัสหรือจากคนขับก็ได้ ตั๋วเที่ยวนี้ราคา 5.50 ยูโร (320 MKD)

เช็คตารางเวลารถบัสและค่าตั๋วได้ที่ bus Prishtina to Skopje

ถ้าจะนั่งรถไฟจะมีตอน 07.10 น. เป็นขบวน IC 891 ออกจากสถานีรถไฟ Stacioni i trenit Prishtine (ห่างจากสถานีรถบัสประมาณ 1.6 กิโลเมตร) ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 42 นาที ถึงสถานีรถไฟ Železnička Stanica Skopje (Железничка Станица Скопје) 09.52 น.

เช็คตารางเวลารถไฟได้ที่ train Prishtina – Skopje -Prishtina

เที่ยงครึ่ง รถบัสเข้าจอดที่สถานีรถบัส Avtobuska Stanica Skopje (Автобуска Станица Скопје) เลตจากกำหนดเวลาเกินครึ่งชั่วโมงเพราะเสียเวลาผ่านด่านชายแดนเข้าประเทศมาเซโดเนียค่อนข้างนาน

สถานีรถบัสกับสถานีรถไฟคืออาคารติดต่อกัน

คนไทยที่มีวีซ่าเชงเก้น type C (วีซ่าท่องเที่ยว) แบบ Multiple Entries ที่ยังมีอายุเหลืออย่างน้อย 5 วันก่อนถึงวันเดินทางเข้าประเทศมาเซโดเนียสามารถเดินทางเข้าและอยู่อาศัยในมาเซโดเนียได้ครั้งละไม่เกิน 15 วัน

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mfa.gov.mk

เข้าไปในอาคารสถานีรถบัสเห็นช่องขายตั๋วหลายช่องและมีช่องให้แลกเงินด้วย แลกเงินก่อนคนละ 50 ยูโร ได้เงินมาคนละ 3,060 denari หรือ MKD (Makedonski denar (Македонски денар) Macedonian denar) สำหรับใช้จ่ายในมาเซโดเนีย 2 วัน

อัตราแลกเปลี่ยนคือ 1 ยูโร = 61.20 MKD หรือ 1 MKD ประมาณ 0.60 บาท

เข้าช่องที่มีป้าย Euro Bus (Euro Linija) เพราะจะซื้อตั๋วรถบัสของบริษัทนี้ไปเมือง Struga วันพรุ่งนี้ search มาแล้วรถจะออกตอน 8 โมงเช้า แต่คิดไปคิดมามันเช้าไปหน่อย เลยเปลี่ยนใจบอกคนขายตั๋วว่าเลือกรถรอบ 8 โมงครึ่งซึ่งเป็นรถตู้ใหญ่ของบริษัท MARTINOSKI แทน ตั๋วรถบัส Skopje – Struga ราคา 500 MKD (ประมาณ 300 บาท)

หันหน้าเข้าหาช่องขายตั๋ว เดินไปทางขวาออกประตูสถานีรถบัส

เดินไปที่สี่แยกใหญ่ทางขวามือ ข้ามถนนและเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Boulevard Kuzman Josifovski Pitu (ถนนที่ลอดใต้สะพานรถไฟออกมา) รอรถเมล์สาย 5, 22, 36

เราจะนั่งรถเมล์เข้าเมืองใหม่เพื่อเช็คอินที่โรงแรม Ibis Skopje City Center แล้วค่อยเดินเที่ยวทั้งฝั่งเมืองใหม่และเมืองเก่า Skopje

ข้อมูลที่หามาจาก www.jsp.com.mk คือตั๋วรถเมล์ราคา 30 MKD ถ้าซื้อจากคนขับ และ 25 MKD เมื่อซื้อก่อนขึ้นรถ แต่พอขึ้นรถเมล์สาย 22 ที่เป็นรถ 2 ชั้นเหมือน London Bus กลับซื้อตั๋วจากคนขับไม่ได้ ป้าที่นั่งอยู่ในรถเลยช่วยสแกนบัตรเติมเงินจ่ายค่ารถให้เรา นางใจดีมากไม่เอาเงินด้วย 😀

แนะนำว่าให้เรียกแท็กซี่เข้า Ploštad Makedonija (Macedonia Square) ในเมืองใหม่ หรือ Stara čaršija (Old Bazaar) ในเมืองเก่า เลยดีกว่า ค่ารถสตาร์ทที่ 50 MKD ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ค่าแท็กซี่ไม่เกิน 100 MKD ก็ถึงแล้ว แต่ต้องเลือกคันที่ดูไว้ใจได้เพราะเค้าว่ากันว่าบางทีก็ไม่ปลอดภัยและต้องระวังถูกโกงด้วย

พอรถเมล์ผ่านสวน Warrior aka Žena Borec (Park Woman) ก็ลงที่ป้าย Плоштад Македонија (Ploštad Makedonija) เดินย้อนไปนิดก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนคนเดินตรงไปยังอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชทรงม้าที่ Ploštad Makedonija หรือ Macedonia Square (ถ้าเลี้ยวขวาก็จะถึง Mother Teresa Memorial House)

เดินเข้าถนนทางซ้าย (หางม้า) ไปเช็คอินที่ Hotel Ibis Skopje City Center

ทำเลของโรงแรมดีมากอยู่ใจกลางเมืองใหม่ เดินเที่ยวง่าย ข้ามแม่น้ำไปฝั่งเมืองเก่าก็ไม่ไกล นั่งแท็กซี่ไปสถานีรถบัสแค่ 60 บาทเอง

ราคาห้องพักไม่แพงตามมาตรฐาน ibis คือ 66.70 ยูโร + City tax คนละ 0.65 ยูโร ต่อคืน อาหารเช้าซื้อเพิ่มได้

ถ้าจะเดินเข้าใจกลางเมืองใหม่ ให้เดินตามถนนใหญ่ Boulevard Kuzman Josifovski Pitu ด้านหน้าสถานีรถไฟตรงไปที่สี่แยกใหญ่ ตรงต่อไปจนถึงโรงแรม Holiday Inn ตรงไปอีกราว 500 เมตรก็จะถึง Ploštad Makedonija หรือ Macedonia Square (ระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร)

ขอกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารจีนชื่อ Peking Garden ใกล้โรงแรมก่อน ค่าอาหารที่นี่ไม่แพงครับ มื้อนึง 200-500 MKD ก็โอเคละ

บ่ายๆ เริ่มเดินเที่ยวชมเมือง Skopje

Skopje (Скопје) คือเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ Macedonia (Македонија / Makedonija) ในอดีตสโคเปียเคยตกอยู่ใต้การปกครองของหลายอาณาจักร เช่น โรมัน ไบแซนไทน์ บัลกาเรีย เซอร์เบีย ออตโตมันซึ่งปกครองดินแดนนี้ยาวนานกว่า 500 ปี ก่อนล่าสุดมาเซโดเนียได้รับเอกราชจากอดีตประเทศยูโกสลาเวียเมื่อปีค.ศ. 1991 ชื่อย่อของประเทศจึงใช้ว่า FYROM ซึ่งย่อมาจาก the former Yugoslav Republic of Macedonia

photo credit: travelswithsheila.com

เริ่มต้นที่ Ploštad Makedonija (Плоштад Македонија) หรือ Macedonia Square จัตุรัสหลักใจกลางเมืองใหม่เป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงสโคเปีย ตรงกลางจัตุรัสมีอนุสาวรีย์ของ Alexander the Great (Александар Велики) พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Voin na konj (Воин на коњ) Warrior on a Horse

หันหลังให้แม่น้ำ เลี้ยวซ้ายเข้าถนน 11th October เดินไปยัง Porta Macedonia (Порта Македонија) หรือ Triumphal Gate (Триумфална Порта) ประตูชัยมาเซโดเนียสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 20 ปีแห่งอิสรภาพของประเทศที่ Ploštad Pela (Плоштад Пела) หรือ Pella Square โดยสร้างแล้วเสร็จในเดือนมกราคม ปีค.ศ. 2012 มีความสูง 21 เมตร

ลอดประตูชัยไปแล้วเลี้ยวขวา พอถึงถนนคนเดิน Ulica Makedonija (ถนนที่เลี้ยวซ้ายตอนลงรถเมล์ขาเข้าเมือง) เลี้ยวซ้ายไปนิดก็เห็น Spomen-kuka na Majka Tereza (Спомен-куќа на Мајка Тереза) หรือ Mother Teresa Memorial House

แม่ชีเทเรซ่าเกิดและอยู่อาศัยที่ Skopje จนถึงอายุ 18 ปี ปัจจุบันบ้านดั้งเดิมไม่มีอยู่แล้ว ตรงนี้กลายเป็นโบสถ์เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของแม่ชีที่มีต่อคริสต์ศาสนิกชน

เดินย้อนทางเดิมแล้วตรงต่อตามถนนคนเดินกลับไปยัง Ploštad Makedonija (Macedonia Square)

เดินไปทาง Kamen most สะพานข้ามแม่น้ำ Vardar (Вардар) อาคารสวยงามทางขวามือที่อยู่อีกฝั่งแม่น้ำคือ Arheoloşki Muzej na Makedonija (Археолошки Музеј на Македонија) หรือ Archaeological Museum of Macedonia

ส่วนทางซ้ายคือ Muzej na Makedonskata borba za državnost i samostojnost (Музеј на македонската борба за државност и самостојност) หรือ Museum of the Macedonian Struggle for Sovereignty and Independence หรือ Museum of the Victims of the Communist Regime Museum of the Macedonian Struggle เรียกย่อๆ ว่า Museum of VMRO (Музеј на ВМРО) คืออาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมาเซโดเนีย

เดินเลียบแม่น้ำไปทางซ้ายก่อน เลยอาคาร Museum of the Macedonian Struggle ไปอีกคือ Makedonski naroden teatar (Македонски народен театар) หรือ Macedonian National Theater (MHT)

บนเนินเขาด้านหลังคือ Skopsko Kale หรือ Skopje Fortress

เดินกลับไปที่ Kamen most (Камен мост) หรือในภาษาเตอร์กิชคือ Taşköprü แปลว่า Stone Bridge สะพานหินข้ามแม่น้ำ Vardar ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 โดยจักรพรรดิ Justinian แห่งไบแซนไทน์ สะพานแลนด์มาร์คของเมืองนี้มีความยาว 214 เมตร เชื่อม Ploštad Makedonija (Macedonia Square) ในเขตเมืองใหม่ กับ Stara čaršija (Old Bazaar)

เลยสะพานหน้า Arheoloşki Muzej na Makedonija (Archaeological Museum of Macedonia) ไปยัง Most na umetnosta (Мост на уметноста) หรือ Art Bridge สะพานคนข้ามที่ตกแต่งด้วยรูปปั้นของศิลปินและนักดนตรีคนดังของประเทศในอิริยาบถต่างๆ ถึง 29 คน ส่วนอาคารตรงสะพานคือสำนักงานอัยการสูงสุดของมาเซโดเนีย

เดินกลับไปข้าม Kamen most เข้าสู่ฝั่ง Stara čaršija (Стара чаршија) หรือ Old Bazaar ในเมืองเก่าสโคเปีย

ลงจากสะพานก็ถึง Spomenik na Olimpija majkata na Aleksandar Makedonski (Monument to Olimpija majkata at Aleksandar Makedonski) หรือน้ำพุ Olimpias

มองไปทางซ้ายจะเห็น Skopsko Kale (Skopje Fortress)

ข้างหน้าคือ Pametnik na Filip Makedonski (Паметник на Филип Македонски) หรือ Philip II of Macedon Monument และ Daut Paşa Hammam (Даут Пашин Амам) หรือ Daut Pasha Baths โรงอาบน้ำแบบเตอร์กิชซึ่งปัจจุบันเป็น National Gallery of Macedonia (Национална галерија на Македонија)

พอเข้าเขตเมืองเก่าปุ๊บก็รู้สึกเหมือนข้ามประเทศจากยุโรปไปอยู่ตุรกี 555 บรรยากาศมันใช่เมืองเก่าออตโตมันเลยครับ

ในเมืองเก่ามีร้านแลกเงิน เรทดีกว่าในสถานีรถบัสนิดหน่อย

ข้ามถนนขึ้นบันไดเตี้ยๆ เดินไปทางขวาผ่าน Kapan an (Капан ан) คือ han หรือที่พักแบบเตอร์กิชก็ถึง Murat Paşa xamija (Мурат Пашина џамија) หรือ Murat Pasha Mosque ใจกลาง Stara čaršija (Old Bazaar)

พักเบรคจิบ afternoon tea สักครู่

ที่จัตุรัสกลางเมืองเก่านี้เป็นที่ตั้งของ Čifte hammam (Чифте-амам) โรงอาบน้ำแบบเตอร์กิชอีกแห่งของเมือง ปัจจุบันเปิดเป็น Natsionalna Galerija na Makedonija (National Gallery of Macedonia) และ Suli An (Сули ан) คือ han หรือที่พักของนักเดินทางในสมัยก่อน ตอนนี้กลายเป็น Skopje Academy of Art และ Old Bazaar Museum

รอบๆ บริเวณเป็น Bezisten คือตลาดขายสินค้าพวกเครื่องนุ่งห่มและงานฝีมือ

เดินเข้าถนนแคบๆ ทางซ้าย หาทางไปยัง Muzej na Makedonija (Музеј на Македонија) Museum of Macedonia ประกอบด้วย 3 พิพิธภัณฑ์ คือ พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับโบราณคดี ประวัติศาสตร์ และชาติพันธุ์วิทยา

พยายามเดินต่อไปทาง Skopsko Kale (Skopje Fortress) มั่วๆ นิดนึงก็โผล่ไปที่ Bushi Resort & Spa มองไปบนเนินคือ Mustafa-Paşa xamija (Мустафа-пашина џамија) หรือ Mustafa Paşa Camii (Mustafa Pasha Mosque) มัสยิดออตโตมันเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1492 มีโดมขนาดใหญ่ที่สุดโดยมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 เมตร

จุดนี้เดินทางไหนก็ได้ให้มันขึ้นไปยังป้อมบนเขา เดินแบบเดาทางเอาไม่นานก็เห็นทางเข้า Skopsko Kale (Скопско Кале) หรือ Skopje Fortress คำว่า kale มาจากภาษาเตอร์กิชแปลว่าป้อมปราการ ป้อมสโคเปียตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของเมืองในเขตเมืองเก่าสโคเปียมีหน้ากว้างถึง 121 เมตร

เดินเข้าไปในบริเวณป้อมได้ฟรี เดินหามุมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

ลงจากป้อมกลับไปที่มัสยิด Mustafa Pasha, Museum of Macedonia และมัสยิด Murat Pasha ที่จัตุรัสกลางเมืองเก่า แล้วเดินกลับทางเดิมไปข้ามสะพาน Kamen most ไปยังฝั่งเมืองใหม่ที่ Ploštad Makedonija (Macedonia Square)

รับประทานมื้อเย็นรอถ่ายรูปตอนโพล้เพล้ตอนประมาณ 2 ทุ่ม ตอนจะมืดสวยกว่าตอนสว่างอ่ะ 555

คืนนี้ค้างที่ Skopje

วันที่ 2 ใน Macedonia

เช้าวันนี้เราจะย้ายเมืองไปเที่ยวเมืองตากอากาศริมทะเลสาบ Ohrid ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เราเลือกไปเมือง Struga (Струга) ก่อนเพื่อเช็คอินและเก็บของที่ห้องพักก่อน แล้วค่อยนั่งรถตู้ท้องถิ่นไปเมือง Ohrid (Охрид) เมืองท่องเที่ยวดังที่สุดของมาเซโดเนีย

เหตุผลที่ไม่เลือกไปค้างคืนที่ Ohrid ก็เพราะว่าตอนเช้าวันรุ่งขึ้นเราจะนั่งรถบัสกลับเข้าประเทศ Albania อีกครั้งเพื่อไปขึ้นเรือข้ามทะเลจากเมือง Durrës ไป Bari ของประเทศอิตาลี รถบัสมีแค่เจ้าเดียวคือ Durmo Tours ซึ่งไม่ผ่านเมือง Ohrid ถ้าค้างที่ Ohrid จะต้องนั่งรถตู้ตั้งแต่เช้ามาขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสเมือง Struga ถ้าใครไม่ได้วางแผนแบบนี้ก็สามารถเลือกไปค้างคืนที่ Ohrid ได้ครับ

จาก Struga ไป Ohrid มีรถบัสวันละหลายเวลา ตอนเช้า เช่น 08.00 น. และ 09.00 น. เป็นรถบัสของ Galeb Ohrid (Галеб) และ Delfina turs ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ถึงสถานีรถบัส Avtobuska Stanitsa Ohrid (Автобуска станица Охрид) ประมาณเที่ยง แต่ควรลงในศูนย์กลางเมืองที่ถนนใหญ่ Boulevard Turistichka ก่อนเพราะสถานีรถบัสอยู่ไกลจากตัวเมืองและจุดท่องเที่ยว ตั๋วรถบัส Skopje – Ohrid ราคา 520 / 450 MKD

เช็คตารางเวลาและค่ารถบัสจาก Skopje ได้ที่ bus from Skopje

8 โมง นั่งแท็กซี่จากโรงแรมไปสถานีรถบัส Avtobuska Stanica Skopje (Автобуска Станица Скопје) ค่าแท็กซี่ 95 MKD (ไม่ถึง 60 บาท)

เราซื้อตั๋วรถตู้ของ MARTINOSKI (Мартиноски) ไว้ตั้งแต่ตอนมาถึงสถานีรถบัส Skopje เมื่อวานแล้ว (ตั๋วราคา 500 MKD) เลยเดินไปขึ้นรถซึ่งจะออกตอน 8 โมงครึ่งได้เลย

รถตู้มีที่เก็บกระเป๋าใหญ่ท้ายรถได้ 2-3 ใบ

นั่งยาวเกือบ 3 ชั่วโมงครึ่ง รถตู้ก็จอดที่ท่ารถของ MARTINOSKI หลังปั๊มน้ำมันซึ่งใกล้กลางเมืองกว่าสถานีรถบัส Avtobuska Stanica Struga

เดินไปหน้าปั๊ม เลี้ยวซ้ายเดินตามถนนสายหลักของเมืองประมาณ 700 เมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนน Marshal Tito ไปเช็คอินที่ Venecia Apartments ห้องพักราคาถูกแค่คืนละ 20 ยูโร ไม่มีอาหารเช้า เน้นไปสถานีรถบัสตอนเช้าได้สะดวกไว้ก่อน

ออกจากอพาร์ทเมนต์เดินกลับไปที่สี่แยกเดิมแล้วตรงเข้าถนน Marshal Tito ไปหาอะไรกินมื้อเที่ยงก่อน

ตรงต่อไปจนถึงแม่น้ำ Crn Drim (Black Drin) เลี้ยวขวาเดินเลียบแม่น้ำไปจนถึงทะเลสาบ Ohrid

เดินไปทางซ้ายก่อน นิดเดียวก็ถึง Mashka Plazha (Men’s Beach) ชายหาดด้านหน้า Hotel Drim โรงแรมหรูของสตรูก้า

เดินกลับไปข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแล้วเดินเลียบริมทะเลสาบไปยัง Zhenska Plazha (Woman’s Beach)

เดินเล่นใน Struga แค่นี้แหละ เดินไปที่วงเวียนเล็กๆ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายหลักของเมืองที่ชื่อ 15-ti Korpus (ถนนที่ตรงมาจากสถานีรถบัส) เดินกลับไปทางที่พัก ก่อนถึงอพาร์ทเมนต์มีป้ายรถอยู่ ยืนรอรถตู้ไป Ohrid ตรงนั้นเลย แป๊บเดียวรถตู้ของ Galeb (Галеб) ก็มา (ตอนนั้นประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง)

จ่ายค่ารถคนละ 50 MKD แล้วนั่งรถประมาณ 20 นาที คนขับจะบอกให้ลงใกล้ศูนย์กลางเมืองที่ถนนใหญ่ Boulevard Turistichka

ถ้าลงรถที่สถานีรถบัส Avtobuska Stanitsa Ohrid (Автобуска станица Охрид) จะต้องเดินประมาณ 2.5 กิโลเมตร หรือนั่งแท็กซี่ประมาณ 5 ยูโร แล้วเดินขึ้นเขาไปยัง Samuilova tvrdina (Samoil’s Fortress)

เว็บรถบัสของ Galeb AD. คือ Galeb bus

photo credit: tripv.ru
เที่ยว Ohrid

Ohrid (Охрид) คือเมืองใหญ่ที่สุดริม Ohridsko Ezero (Охридско Езеро) หรือ Lake Ohrid ซึ่งมีเนื้อที่ครอบคลุมทางตะวันตกเฉียงใต้ของมาเซโดเนียและทางตะวันออกของประเทศอัลเบเนีย

โอห์ริดได้ชื่อว่าเป็น “เยรูซาเล็มแห่งคาบสมุทรบอลข่าน” เนื่องจากในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของโบสถ์มากถึง 365 หลัง แต่ละหลังใช้ประกอบศาสนพิธีในแต่ละวันภายใน 1 ปี แต่ความศรัทธาทางคริสต์ศาสนาเริ่มเสื่อมคลายลงหลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ายึดครองตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเมืองนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเพราะทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบซึ่งเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ รวมทั้งอาคารบ้านเรือนในเมืองซึ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเช่นกัน

ลงรถตู้ที่ถนนใหญ่ Boulevard Turistichka เดินกลับไปที่สี่แยกใหญ่ที่รถเพิ่งผ่านมา เลี้ยวซ้ายเดินตามถนนสายหลักมุ่งหน้าไปทางทะเลสาบเข้าสู่ตัวเมืองโอห์ริด

ตรงเข้าถนนคนเดิน Bulevar Makedonski Prosvetiteli ไปจนถึง Siti Skver Ohrid (Сити Сквер Охрид) จัตุรัสหลักของเมืองที่มีรูปปั้นของ St. Clement of Ohrid อยู่ตรงกลาง

เลี้ยวขวาเดินตามถนน Car Samoil หรือ Tsar Samoil (Цар Самоил) เข้าเมืองเก่า

ตรงไปเรื่อยๆ ไม่ไกลมากก็ถึง Crkva Sveta Sofija (Црква Света Софија) หรือ Church of St. Sophia

เดินไปด้านหลังโบสถ์มีบ้านเก่าแก่ของครอบครัว Kanevce ที่เรียกว่า Ohridska Stara Kuća (Ohrid Old House)

เดินกลับไปที่ทางเข้าโบสถ์เซนต์โซเฟีย เลยโบสถ์ไปหน่อยมีทางเดินขึ้นเขาไปยัง Samuilova tvrdina

พอถึงบนเขาจะเห็นประตูกำแพงเมืองเก่า ไม่ต้องเข้าประตูไป ให้เดินไปทางซ้ายตามป้ายบอกทางขึ้นเนินไม่ไกลก็ถึงทางเข้า Samuilova tvrdina (Самуилова тврдина) หรือ Samoilova tvrdina (Samoil’s Fortress) ป้อมปราการบนเนินเขาในเขตเมืองเก่าซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิบัลกาเรียที่ 1 ในช่วงที่ปกครองโดย Tsar Samuel หรือจักรพรรดิซามูเอลแห่งบัลกาเรียราวศตวรรษที่ 10

ป้อมเปิดให้เข้าชมทุกวัน 09.00-19.00 น. ค่าเข้าสำหรับชาวต่างชาติ 60 MKD

เดินตามป้ายบอกทางลงเนินและแยกซ้ายไปยัง Crkva Sveti Kliment i Pantelejmon (Црква Свети Климент и Пантелеjмон) หรือ Church of Saints Clement and Panteleimon นักโบราณคดีเชื่อว่าโบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีการสอนอ่านตัวอักษร Glagolitic ซึ่งใช้ในการแปลคัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นภาษาสลาฟโบราณ (Old Church Slavonic) เป็นครั้งแรก

เดินกลับไปตรงที่แยกซ้ายมา เดินไปอีกทางลงเขาหาทางไปจุดชมวิวทะเลสาบที่มองเห็น Crkva „Sveti Jovan Kaneo“ (Црква „ Свети Јован Канео“) หรือ Church of St. John at Kaneo (Saint John the Theologian, Kaneo) โบสถ์มาเซโดเนียออร์โธด็อกซ์ตั้งอยู่บนหน้าผาเหนือชายหาด Kaneo ของทะเลสาบ นักโบราณคดีเชื่อว่าโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นก่อนการเกิดขึ้นของจักรวรรดิออตโตมันในราวศตวรรษที่ 13

ลงไปที่โบสถ์และเดินลงเขาไปที่ชายหาด Kaneo ริมทะเลสาบ ตอนแรกจะเดินเลียบริมทะเลสาบกลับไปที่โบสถ์เซนต์โซเฟียและท่าเรือใกล้จัตุรัสหลัก Siti Skver Ohrid แต่เห็นเรือกำลังจะออกเลยถามคนขับว่าไปด้วยได้มั้ย? จะได้เก็บภาพบ้านเมืองของโอห์ริดจากทะเลสาบ

เรือมาส่งแค่ท่าใกล้โบสถ์เซนต์โซเฟีย โดนค่าเรือ 2 คน 500 MKD (ประมาณ 300 บาท) ต้องเดินกลับไปที่จัตุรัส Siti Skver Ohrid และท่าเรือ Ohrid

ถ่ายรูปเมืองโอห์ริดก่อนพระอาทิตย์ตกจากท่าเรือ

เดินเข้าถนนคนเดิน Bulevar Makedonski Prosvetiteli ตามเส้นทางเดิมกลับไปที่ป้ายรถเดียวกับตอนที่มาถึง รอรถนานเหมือนกันกว่ารถตู้จะมา ขากลับใช้เวลานานกว่าเพราะรถวิ่งคนละทาง รถตู้แวะจอดที่สถานีรถบัสเมือง Struga แล้วขับมาจอดที่ป้ายเดียวกับตอนขาขึ้นรถไป Ohrid ค่ารถ 50 MKD

ถ้าอยากเร็วก็เรียกแท็กซี่กลับได้ ค่าแท็กซี่ 5-10 ยูโร

มีเว็บให้เช็คเวลารถบัส Ohrid – Struga คือ http://mktransport.mk แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ตรงเวลาเป๊ะๆ ครับ

คืนนี้ค้างที่ Struga

จาก Macedonia เรานั่งรถบัสของ Durmo Tours ข้ามชายแดนไปเมือง Durrës (Драч) ของ Albania ตอน 9 โมงครึ่ง มีรถบัสทุกวัน ซื้อตั๋วที่สถานีรถบัส Avtobuska Stanica Struga ใบละ 700 MKD (12 ยูโร) แล้วนั่งรอรถได้เลย

เช็คตารางเวลาและค่ารถบัสได้ที่ www.balkanviator.com และ http://durmotours.com.mk หรือดูป้ายที่สถานีรถบัสก็ได้

จากอพาร์ทเมนต์ที่พักไปสถานีรถบัสระยะทางราว 1 กิโลเมตร นั่งแท็กซี่ไป 100 MKD

อ่านรีวิวประเทศ Albania ต่อได้ที่ SHQIPËRI มีอะไรให้เที่ยวเอง “Berati – Tiranë – Durrës” สามเมือง สามอารมณ์ ของอัลเบเนีย

*ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงข้อมูลและรูปภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต