กลับมาสเปนอีกครั้งก็ไปเซบีญาอีกที
ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ 6 ของทริปสเปน จากกรุง Madrid เราเดินทางลงใต้ไปเที่ยว 7 เมืองในแคว้น Andalucía ได้แก่ Córdoba, Granada, Málaga, Benalmádena, Mijas, Setenil de las Bodegas และ Ronda
ตามรอยทริปได้จากรีวิวทั้ง 5 ตอนนี้ครับ
ติดใจ! สเปน ตอนที่ 1 เที่ยวเอง “Madrid” รอบ 3 เมืองหลวงที่เดินเที่ยวง่ายที่สุดในยุโรป
ติดใจ! สเปน ตอนที่ 2 เที่ยวเอง “Córdoba” รอบ 2 เมืองเก่าแก่ที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายโรมันและอิสลาม
ติดใจ! สเปน ตอนที่ 3 เที่ยวเอง “Granada” อลังการงานสร้างพระราชวังแขกมัวร์ทั่วทั้งเนินเขา
ติดใจ! สเปน ตอนที่ 4 เที่ยวเอง “Málaga” เมืองตากอากาศริมทะเลและสองเมืองใกล้ๆ แบบไปเช้าเย็นกลับ
ติดใจ! สเปน ตอนที่ 5 เที่ยวเอง “Setenil – Ronda” เมืองใต้โพรงหินกับเมืองบนผาหินอันน่าอัศจรรย์
เดินทางมาถึงวันรองสุดท้ายของทริปนี้
โปรแกรมวันที่ 7 ในสเปนคือเที่ยวเมือง Seville หรือ Sevilla ในภาษาสเปน
จากสถานีรถบัส Estación de Autobuses de Ronda มีรถบัสของ Damas ไป Sevilla ทุกวัน เวลา 06.30, 11.30, 15.30, 18.30 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 45 นาที – 2 ชั่วโมง 30 นาที ค่ารถ 13.72 ยูโร ลงที่สถานีรถบัส Estación de autobuses Prado de San Sebastián
เช็คตารางเวลารถบัสได้ที่ Damas bus
จากสถานีรถไฟ Ronda มีรถไฟตรงไป Sevilla ตอนเช้า
เช็คเวลาและซื้อตั๋วรถไฟสเปนได้ที่ www.renfe.com/es/en
รถไฟไปถึงสถานีรถไฟ Estación de Sevilla Santa Justa ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของศูนย์กลางเมือง ห่างออกไปราว 2 กิโลเมตร
ถ้าจะเดินทางเข้าศูนย์กลางเมือง ออกจากสถานีรถไฟเดินไปทางซ้ายจะเห็นวงเวียนใหญ่ ทางซ้ายมือมีป้ายรถเมล์ Auxiliar Kansas City (Est. Santa Justa) อยู่ใกล้ๆ นั่งรถเมล์สาย 28 เข้าไปยังศูนย์กลางเมืองที่ Jardines del Prado de San Sebastián
หรือสาย 21 จากป้าย José Laguillo (Estación de Santa Justa) ด้านหน้าสถานีรถไฟ ไปลงที่ป้าย Menéndez Pelayo (Juzgados) ด้านหลัง Real Alcázar de Sevilla ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน Prado de San Sebastián
ตั๋ว Billete Univiaje (Univoyage ticket) ราคาเที่ยวละ 1.40 ยูโร ซื้อจากคนขับรถหรือเครื่องขายตั๋วตามป้ายรถรางต่างๆ ใช้โดยสารรถเมล์หรือรถราง (Metrocentro) ในเครือข่ายของ TUSSAM ได้ครั้งเดียว ไม่สามารถใช้โดยสารรถไฟใต้ดิน
เช็คเส้นทางรถเมล์สายต่างๆ ได้ที่ Sevilla bus routes
โรงแรมของเราชื่อ Hotel abba Sevilla ซึ่งอยู่ด้านหน้าตึกประหลาด Setas de Sevilla (Metropol Parasol)
จากสถานีรถไฟ Sevilla Santa Justa
เดินไปที่ป้ายรถเมล์ José Laguillo (Estación de Santa Justa) ด้านหน้าสถานีรถไฟ นั่งรถเมล์สาย 32 ไปลงที่ป้าย Imagen (Plaza Encarnación) เดินไปที่ตึก Setas de Sevilla โรงแรมอยู่ทางซ้ายมือ
ตั๋ว Billete Univiaje (Univoyage ticket) ราคาเที่ยวละ 1.40 ยูโร ซื้อจากคนขับรถได้
ให้ข้อมูลตั๋วรถเมล์และรถรางในเครือข่ายของ TUSSAM ประเภทอื่น เช่น
– ตั๋ว Tarjeta Turística 1 día (Tourist Card 1 day) หรือตั๋ว 1 วัน ราคา 5 ยูโร + ค่ามัดจำบัตร 1.50 ยูโร ซื้อได้ที่จุดขายตั๋วที่ Prado de San Sebastián, Plaza Ponce de León และ Avda. Andalucía, 11 เมื่อคืนบัตรที่จุดบริการลูกค้าของ TUSSAM จะได้เงินค่ามัดจำคืน
ตั๋ววันใช้โดยสารรถเมล์และรถราง (Metrocentro) ในเครือข่ายของ TUSSAM ได้ไม่จำกัดภายใน 1 วัน แต่ไม่สามารถใช้โดยสารรถไฟใต้ดินได้
– ตั๋ว Billete Univiaje Especial Aeropuerto คือตั๋วรถเมล์เที่ยวเดียวสำหรับเดินทางไปสนามบินราคา 4 ยูโร ซื้อจากคนขับรถได้ และตั๋ว Billete Ida y Vuelta สำหรับเดินทางไป-กลับสนามบินราคา 6 ยูโร ซื้อจากคนขับรถได้ ใช้เดินทางไป-กลับสนามบินในวันเดียวกัน
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.tussam.es
ตั๋วรถไฟใต้ดิน (Metro) มีหลายประเภท (แต่ไม่จำเป็นต้องใช้) เช่น
– ตั๋ว Billete Sencillo (One-way ticket) สำหรับเดินทางภายในโซนเดียว (0 jumps) ราคา 1.35 ยูโร, เดินทางข้าม 1 โซน (1 jump) ราคา 1.60 ยูโร และข้าม 2 โซน (2 jumps) ราคา 1.80 ยูโร ตั๋วใบเดียวสามารถใช้เดินทางร่วมกันได้หลายคน ตั๋วมีอายุ 90 นาที เติมเงินได้สูงสุด 9 เที่ยว
– ตั๋ว Billete Ida y Vuelta (Round trip) สำหรับเดินทางภายในโซนเดียว (0 jumps) ราคา 2.70 ยูโร, เดินทางข้าม 1 โซน (1 jump) ราคา 3.20 ยูโร และข้าม 2 โซน (2 jumps) ราคา 3.60 ยูโร ตั๋วใบเดียวสามารถใช้เดินทางร่วมกันได้หลายคน ตั๋วมีอายุ 90 นาที เติมเงินได้สูงสุด 4 เที่ยวของตั๋ว round-trip tickets
– ตั๋ว Bono de un día (one day bonus) ตั๋ววันสำหรับผู้โดยสาร 1 คนเท่านั้น ราคา 4.50 ยูโร ใช้เดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งและโซนภายใน 1 วัน
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.metro-sevilla.es
ห้องพักของเราอยู่ชั้น 5 ห้องตรงมุมพอดี เลยมองจากหน้าต่างห้องไปเห็นโบสถ์ Iglesia Colegial del Divino Salvador และยอดหอระฆัง La Giralda ได้แบบเต็มๆ
ขึ้นบันไดทางหนีไฟไปดาดฟ้าที่มีสระว่ายน้ำวิวปัง แช่น้ำเล่นก่อนเลยเพราะไม่มีแขกมาใช้บริการ
บ่ายโมง พร้อมเที่ยวชมเมือง Sevilla
Sevilla (Seville) คือเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของแคว้น Andalucía (Andalusia) และเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 4 ของสเปน
เขตเมืองเก่าซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ Guadalquivir มีสถานที่สำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ซึ่งทั้งงดงามและทรงคุณค่ามากมาย ส่วนมากต้องใช้การเดินเที่ยวเก็บเกี่ยวบรรยากาศความสวยงาม คึกคัก และมีชีวิตชีวาของบ้านเมืองและผู้คน
เช่นเดียวกับเมืองต่างๆ ของแคว้นอันดาลูเชียที่อยู่ภายใต้การปกครองและอิทธิพลของชาวมุสลิมจากแอฟริกาเหนือยาวนานร่วม 800 ปี สถาปัตยกรรมและศิลปกรรมต่างๆ ในเมืองจึงเป็นแบบแขกมัวร์ผสมกับยุโรป
เริ่มต้นที่ตึก Setas de Sevilla
ชื่อนี้แปลว่าเห็ดแห่งเซบีญา แต่เดิมชื่อตึก Metropol Parasol ตึกโมเดิร์นหน้าตาประหลาดนี้อยู่ที่ Plaza de la Encarnación ในเขตเมืองเก่า ออกแบบโดย Jürgen Hermann Mayer สถาปนิกชาวเยอรมันและสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2011 มีความกว้าง 150 เมตร ยาว 70 เมตร และสูง 26 เมตร ถือว่าเป็นอาคารโครงสร้างไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เวลาเปิด-ปิด เปิดทุกวันในเดือนพ.ย.-มี.ค. 09.30-00.00 น., เดือนเม.ย.-ต.ค. เปิดถึงเที่ยงคืนครึ่ง
ค่าเข้าชมราคาปกติ 10 ยูโร ค่าเข้าชมก่อนพระอาทิตย์ตกครึ่งชั่วโมงราคา 12 ยูโร ค่าเข้าชมตอนกลางคืน 15 ยูโร ค่าเข้าชมเฉพาะจุดชมวิว (Mirador) ราคา 5 ยูโร ก่อนพระอาทิตย์ตกครึ่งชั่วโมง 8 ยูโร
อัพเดทข้อมูลได้ที่ visit Setas de Sevilla
จากทางเหนือของเขตเมืองเก่า เราจะลงไปยังแลนด์มาร์คดังของเซบีญา นั่นคือ Plaza de España ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่อยู่ใต้สุดในแพลนก่อน แล้วเดินวนเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆ มากมายกลับไปทางทิศเหนือที่ตึก Setas de Sevilla ปิดท้ายตอนค่ำ
นั่งรถเมล์สาย 27 จากป้าย Laraña (Plaza Encarnación) ใกล้ด้านหน้าตึก Setas de Sevilla ไปลงที่ป้าย La Florida โดยซื้อตั๋ว Billete Univiaje (Univoyage ticket) ใบละ 1.40 ยูโร จากคนขับรถ แล้วเดินตามถนนใหญ่ลงไปทางทิศใต้ 1 กม. ไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน Prado de San Sebastián (ศูนย์กลางการคมนาคมของเมือง)
ถ้าไม่อยากเดิน 1 กิโล ให้เดินย้อนกลับไปที่ถนนใหญ่เลี้ยวขวาไปป้าย Menéndez Pelayo (Puerta Carmona) ขึ้นรถเมล์สาย 21 ตรงตามถนนใหญ่ไปลงที่ป้าย Menéndez Pelayo (Juzgados) โดยต้องซื้อตั๋วใบใหม่อีก 1.40 ยูโร แล้วเดินอีกราว 300 เมตรไปสถานีรถไฟใต้ดิน Prado de San Sebastián
เช็คเส้นทางรถเมล์สายต่างๆ ได้ที่ Sevilla bus routes
จากสถานีรถไฟใต้ดิน Prado de San Sebastián
เดินเข้าไปในสวน Jardines del Prado de San Sebastián ตรงทะลุไปออกที่ถนน Avenida Portugal เดินไปทางขวาข้ามถนนไปก็จะเห็นยอดแหลมของอาคารที่ Plaza de España เดินลัดสวนเข้าไปยังอาณาเขตของ Plaza de España (Spain Square) จัตุรัสขนาดมหึมาที่สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1928 สำหรับจัดงานแฟร์ระดับโลก la Gran Exposición Iberoamericana (Ibero-American Exposition of 1929) โดยมีอาคารสไตล์ Renaissance Revival งดงามอลังการเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลม
อาคารทางซ้ายมือคือ Museo Histórico Militar de Sevilla (Military Historical Museum of Seville) ส่วนตรงกลางคือ Capitanía General และอาคารหน่วยงานราชการต่างๆ แต่ละโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร
จัตุรัสสเปนแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว
วันนี้เราเริ่มเที่ยวเซบีญาสายไปหน่อยและใช้เวลาอยู่ที่ Plaza de España เกิน 1 ชั่วโมง จึงต้องตัดโปรแกรมสถานที่ในสวน Parque de María Luisa ที่อยู่ทางใต้ Plaza de España ไปอีกออก เพราะตอนมาที่นี่ครั้งแรกเคยไปมาแล้วครับ
ถ้าจะไป จากตรงกลางจัตุรัสสเปน เดินตรงเข้าถนน Avenida Rodríguez de Casso ผ่านกลางสวน Parque de María Luisa แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Calle de Pizarro ในสวน เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะถึงด้านหลังของ Pabellón Mudéjar (Moorish Pavilion) ซึ่งปัจจุบันคือ Museo de Artes y Costumbres Populares หรือ Museum of Popular Arts and Traditions (ระยะทางประมาณ 700 เมตร)
ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์คือ Plaza de América เป็นที่ตั้งของ Museo Arqueológico de Sevilla (Archeological Museum of Seville) อาคารพิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดีที่ออกแบบโดย Aníbal González และอาคาร Pabellón Real
จากตรงนี้เดินไป Real Alcázar de Sevilla (Royal Alcázar of Seville) ค่อนข้างไกล ควรนั่งรถเมล์สาย 34 จากป้าย Paseo Las delicias (Glorieta Méjico) ที่ถนนใหญ่ Paseo de las Delicias ตรงไปทางทิศเหนือลงที่ป้าย Avenida María Luisa (La Raza) ตรงวงเวียนขนาดใหญ่จุดที่เดินเข้าสวนไปยัง Plaza de España นั่นแหละ หรือเดินกลับทางเดิมผ่าน Plaza de España ออกจากสวนตรงที่เดิม (ระยะทางประมาณ 1.1 กม.) ก็ได้
จากนั้นตรงราว 300 เมตรไปทางวงเวียนน้ำพุ Fuente de las Cuatro Estaciones แล้วเลี้ยวซ้ายเดินเข้าถนน Calle San Fernando นิดเดียวก็ถึงทางเข้าด้านหน้า Universidad de Sevilla (University of Seville) อาคารหินที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดย Sebastián Van der Bocht เดิมเคยเป็น Real Fábrica de Tabacos (Royal Tobacco Factory) หรือโรงงานยาสูบซึ่งเป็นอาคารทางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในสเปนในขณะนั้น
เดินตามทางรถรางอีกนิดจนถึงน้ำพุ Fuente de Híspalis de Puerta de Jerez
เลี้ยวขวาเข้าถนนเล็กๆ ชื่อ Calle San Gregorio ตรงไปจนสุดทาง เลี้ยวซ้ายและขวาไปก็เห็นกำแพงสีชมพูด้านข้าง Real Alcázar de Sevilla (Royal Alcázar of Seville)
เดินไปยังประตูทางเข้าด้านหน้าพระราชวังก็เห็นสิ่งก่อสร้างขนาดมหึมาซึ่งเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของเซบีญา นั่นคือ Catedral de Santa María de la Sede หรือ Seville Cathedral
ส่วนอาคารทางซ้ายมือคือ Archivo General de Indias (General Archive of the Indies) หรือ Casa Lonja de Mercaderes บ้านซึ่งเป็นแหล่งค้าขายแลกเปลี่ยนในสมัยโบราณแห่งนี้ออกแบบโดย Juan de Herrera ในสถาปัตยกรรมแบบสแปนิชเรอเนสซองส์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปีค.ศ. 1987 เช่นเดียวกัน
เวลาเปิด-ปิด วันอังคาร-เสาร์ 09.30-17.00 น., วันอาทิตย์และวันหยุด 10.00-14.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ ไม่เสียค่าเข้าชม
ข้อมูลจาก www.culturaydeporte.gob.es
Puerta del León คือทางเข้าพระราชวัง Real Alcázar de Sevilla อยู่ที่ Plaza del Triunfo ตรงข้ามกับ Catedral de Santa María de la Sede
เข้าชม Real Alcázar de Sevilla (Royal Alcázar of Seville) พระราชวังหลวงแห่งเซบีญาซึ่งเคยเป็นป้อมปราการของชาวมัวร์ในสมัยที่ดินแดนอันดาลูเชียถูกปกครองโดยมุสลิมโดยมีชื่อว่า al-Qasr al-Muriq ต่อมาในศตวรรษที่ 14 ป้อมอัลกาซาร์ได้กลายเป็นพระราชวังที่ประทับของพระเจ้า Pedro ที่ 1 แห่ง Castile
อัลกาซาร์เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรม Mudéjar ในคาบสมุทรไอบีเรีย โดยผสมผสานสไตล์โรมาเนสก์ โกธิค และเรอเนสซองส์ เป็นองค์ประกอบของโครงสร้าง ปัจจุบันเป็นพระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดแห่งเดียวของยุโรปที่ยังคงถูกใช้เป็นพระราชวังอยู่
พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปีค.ศ. 1987
พระราชวังเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.-31 มี.ค. 09.30-17.00 น., 1 เม.ย.-28 ต.ค. 09.30-19.00 น. ปิดทุกวันที่ 1 และ 6 ม.ค., Good Friday และ 25 ธ.ค.
ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 13.50 ยูโร ทุกวันจันทร์ในเดือนเม.ย.-ก.ย. 18.00-19.00 น. และเดือนต.ค.-มี.ค. 16.00-17.00 น. เข้าชมฟรี
อัพเดทข้อมูลได้ที่ www.alcazarsevilla.org
ออกจากพระราชวัง เดินไปยังทางขึ้นหอระฆัง La Giralda ของมหาวิหารแห่งเซบีญา หอระฆังนี้มีความสูง 104.1 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองในยุคกลาง
อาคารสีชมพูด้านข้างหอระฆังคือ Palacio Arzobispal (Archbishop’s Palace) วังเก่าซึ่งเคยเป็นที่อาศัยของผู้ปกครองเมือง บาทหลวง ขุนนาง และผู้นำทางทหารมากมาย
เดินวนขึ้นไปยังยอดหอระฆัง เหนื่อยพอสมควรเลยทีเดียว
มหาวิหารและหอระฆังเปิดให้เข้าชมวันจันทร์-เสาร์ 10.45-18.00 น., วันอาทิตย์ 14.30-19.00 น. ต้องเข้าชมก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง ใช้เวลาชมรวมประมาณ 75 นาที ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 11 ยูโร (ซื้อออนไลน์) และ 12 ยูโร (ซื้อจากจุดขายตั๋วที่ Puerta del Príncipe)
อัพเดทข้อมูลได้ที่ www.catedraldesevilla.es
บนนี้สามารถมองเห็นเมืองเซบีญาได้ทั่วทั้งเมืองโดยมีสิ่งก่อสร้างเด่นๆ เช่น พระราชวัง Real Alcázar de Sevilla, ตึก Setas de Sevilla และสนามสู้วัว Plaza de toros de la Maestranza
ลงจากหอระฆังไปเข้าชมภายใน Catedral de Santa María de la Sede (Cathedral of Saint Mary of the See) หรือ Catedral de Sevilla (Seville Cathedral)
มหาวิหารแห่งเซบีญาคือโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของสเปนและใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 120 ปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ. 1528 มีความยาว 135 เมตร กว้าง 100 เมตร สูง 42 เมตร และมีพื้นที่ถึง 11,520 ตารางเมตร
ภายในวิหารมี Tumba de Cristobal Colon หรือที่บรรจุศพของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือชาวอิตาเลียนผู้ค้นพบทวีปอเมริกา
มหาวิหารโกธิคแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปีค.ศ. 1987
ออกจากมหาวิหาร เดินเข้าถนน Calle Mateos Gago ตรงข้ามหอระฆังไม่ไกลก็เลี้ยวขวาเข้าถนน Calle Rodrigo Caro เลี้ยวซ้ายเดินตามถนน Pasaje de Vila เข้าสู่เขต Barrio de Santa Cruz (Jewish Quarter) ย่านชุมชนชาวยิวในสมัยก่อน บริเวณนี้เป็นเขตเมืองเก่าแก่ที่มีถนนแคบๆ ในบรรยากาศคลาสสิกน่าเดินเล่นและนั่งพักจิบกาแฟ
ตรงไปอีกราว 150 เมตรก็ถึงใจกลางของย่าน Barrio de Santa Cruz ที่ Plaza de los Venerables ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Hospital de Venerables Sacerdotes (Hospital de Venerables) อาคาร 2 ชั้นที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นบ้านพักของผู้สูงอายุและโรงพยาบาลคนชราและนักบวช
ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบ Andalusian ที่สมบูรณ์ที่สุด เปิดให้เข้าชมวันอังคาร-เสาร์ 10.00-18.00 น., วันอาทิตย์ 10.00-15.00 น. ต้องเข้าชมก่อนเวลาปิด 45 นาที วันจันทร์ปิด ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 10 ยูโร
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://hospitalvenerables.es/
นั่งพักเหนื่อยกิน Churros และจิบกาแฟแถวนี้หน่อย ฝนตกลงมาพอดีด้วย
จากนั้นเดินผ่านอาคาร Hospital de Venerables Sacerdotes ตามถนนแคบๆ จนถึงลานกว้างที่ Plaza de Doña Elvira เลี้ยวขวาเดินเข้าถนนแคบๆ ลัดออกไปที่กำแพงของพระราชวังอัลกาซาร์และ Catedral de Santa María de la Sede (Seville Cathedral) ที่ Plaza del Triunfo อีกครั้ง
เดินกลับไปที่น้ำพุ Fuente de Híspalis de Puerta de Jerez เดินผ่านหน้าน้ำพุตรงไปก็เห็นอาคารสีสดขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Palacio de San Telmo (Palace of San Telmo) คฤหาสน์งดงามที่สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1682 นอกแนวกำแพงเมืองเพื่อใช้เป็น Colegio Seminario de la Universidad de Mareantes (University of Navigators) โรงเรียนสอนเด็กกำพร้าของเหล่าทหารเรือ ปัจจุบันเป็นที่ทำการรัฐบาลของแคว้นอันดาลูเชีย
เดินลัดสวนเล็กๆ ตรงข้ามกับวังไปที่ริมคลอง Canal de Alfonso XIII เดินไปกลางสะพาน Puente de San Telmo ถ่ายรูป Torre del Oro (Gold Tower) หอคอยป้องกันเมืองทางแม่น้ำ Guadalquivir ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13
ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ทางทะเลเปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ 09.30-18.00 น., วันเสาร์และวันหยุด 10.30-18.00 น. ปิดทุกวันอาทิตย์ ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 3 ยูโร วันจันทร์เข้าชมฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ visit Torre del Oro
เดินผ่าน Torre del Oro ตรงไปราว 450 เมตรก็ถึง Plaza de Toros de la Real Maestranza de Caballería de Sevilla สนามกีฬาสู้วัวกระทิงที่เก่าแก่ที่สุดในสเปนสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1761 มีอายุกว่า 260 ปี
ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมทุกวัน 09.30-19.30 น. ต้องเข้าชมก่อนเวลาปิด 30 นาที วันที่ 25 ธ.ค. ปิด
ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ราคา 10 ยูโร ทุกวันพุธตั้งแต่ 15.30-19.30 น. เข้าชมฟรี
อัพเดทข้อมูลได้ที่ https://realmaestranza.com/
เลยไปอีกไม่ถึง 300 เมตรคือ Puente de Isabel II หรือ Puente de Triana (Triana Bridge) สะพานข้ามคลอง Alfonso XIII ไปยังเกาะกลางแม่น้ำ Guadalquivir ในเขต Triana ทางตะวันตกของเมือง บนสะพานเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของเมืองเซบีญา
เดินกลับไปทางด้านหลังสนามสู้วัวกระทิง
เดินตามถนน Calle Antonia Díaz ตรงไปและโค้งขวาต่อแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนแคบๆ ชื่อ Calle Harinas ตรงไปจนถึงสี่แยกเล็กๆ ก็เลี้ยวขวาเข้าถนน Calle Joaquín Guichot เดินอีกนิดออกไปเจอ Plaza Nueva (ระยะทางประมาณ 600 เมตร) จัตุรัสแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ Casa consistorial de Sevilla (Sevilla City Hall) หรือ Ayuntamiento de Sevilla อาคารที่ทำการเมืองสไตล์ Plateresque สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16
เดินไปที่ถนน Plaza de San Francisco ด้านหลัง Ayuntamiento เลี้ยวขวาเข้าถนนแคบๆ ตรงข้ามกับอาคารที่ทำการเมืองชื่อ Calle Chicarreros แล้วเลี้ยวซ้ายเดินตามถนน Calle Álvarez Quintero ตรงไปจนผ่านด้านหน้าโบสถ์สีชมพูชื่อ Iglesia Colegial del Divino Salvador (โบสถ์ที่เห็นยอดโดมสวยงามจากหน้าต่างห้องพัก)
ตรงเข้าซอยแคบๆ ทางซ้ายมืออีกไม่ไกลก็ถึง Palacio de la Condesa de Lebrija (ระยะทางราว 500 เมตร)
Palacio de la Condesa de Lebrija (Lebrija Palace) คือวังเก่าแก่ที่ได้ชื่อว่าเป็นวังกระเบื้องโมเสกที่ดีที่สุดของยุโรปอยู่ที่ถนน Calle Cuna ถนนที่คับคั่งที่สุดของเมือง เป็นที่เก็บรวบรวมโมเสกของโรมันซึ่งปูพื้นชั้นล่างของบ้าน ผลงานที่ประเมินค่ามิได้ของ Van Dyke, Bruegel, Alonso Cano รวมทั้งเครื่องเซรามิคและเครื่องแก้วมากมาย
พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน 10.00-18.00 น. ต้องเข้าชมก่อนเวลาปิด 45 นาที
ค่าเข้าชมราคา 12 ยูโร วันศุกร์ 10.00 น. เข้าชมฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://palaciodelebrija.com/
ตรงต่อไปจนถึงสี่แยก พอเลี้ยวขวาไปก็เห็นตึกประหลาด Setas de Sevilla เดินเข้าโรงแรมขึ้นชั้นดาดฟ้าไปถ่ายรูปวิวตอนพระอาทิตย์ใกล้ตก ได้ภาพสวยงามไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ตึก Setas de Sevilla เริ่มเปิดไฟแล้ว ลงไปถ่ายรูปกัน
ถ้าใครชื่นชอบศิลปะและมีเวลาเที่ยว Sevilla เต็มวันก็สามารถเดินจากตึก Setas de Sevilla ประมาณ 750 เมตร ไป Museo de Bellas Artes de Sevilla (Museum of Fine Arts of Seville) อาคารเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ค.ศ. 1594 ต่อมาในปีค.ศ. 1839 ได้ถูกก่อตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมผลงานทัศนศิลป์ชิ้นสำคัญๆ ตั้งแต่ยุคกลางถึงต้นศตวรรษที่ 20 ของสเปนไว้มากมาย รวมทั้งผลงานของศิลปินในยุคทองของเซบีญาในช่วงศตวรรษที่ 17 เช่น Murillo, Zurbarán, Francisco de Herrera และ Valdés Leal
พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมวันอังคาร-เสาร์ 09.00-21.00 น., วันอาทิตย์และวันหยุด 09.00-15.00 น. ปิดทุกวันจันทร์ (ยกเว้นจันทร์ที่ตรงกับวันหยุด) ปิดวันที่ 1 และ 6 ม.ค., 1 พ.ค., 24-25 ธ.ค., 31 ธ.ค. ค่าเข้าชมราคา 1.50 ยูโร
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://sevillecityguide.com/
กินข้าวเย็นที่ร้าน DOÑA ENCARNA ข้างล่างโรงแรมนี่แหละ
สั่งเมนู Chef’s recommendations 2 อย่าง คือ Paella de Mariscos (Seafood Paella) กับ Entrecot de Vaca Simmental Madurado 40 Dias (Simmental Veal Entrecot Dry Aged 40 Days) มาแชร์กันลอง บอกเลยโคตรอร่อย เดินแหลกมาครึ่งวันเต็มๆ เจอมื้อเย็นแบบนี้ฟินเลยครับ
ค้างคืนที่ Sevilla
*ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงข้อมูลและรูปภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต
