กลับมาสวิสอีกครั้ง ต้องไปเที่ยวที่ใหม่ๆ เพิ่ม
รีวิวนี้จะรวมโปรแกรมเที่ยววันที่ 5 และ 6 ของทริป (ใช้ Swiss Travel Pass วันที่ 4 และ 5) ตามนี้ครับ
วันที่ 5: Interlaken – Kandersteg – Oeschinensee – Eggishorn (Aletsch Glacier) – Bellwald (Goms Bridge) – Fieschertal
วันที่ 6: Fieschertal – Saas-Fee

ย้อนเรื่องราวเที่ยว 3 วันก่อนหน้าจาก 4 รีวิวที่ให้ link ไว้นี้ได้เลยครับ
ซัมเมอร์อินสวิตเซอร์แลนด์ ตอนที่ 1 เที่ยวเอง “Zürich” อีกทีก็มีมุมใหม่ให้ถ่ายรูป
ซัมเมอร์อินสวิตเซอร์แลนด์ ตอนที่ 2 เที่ยวเอง “Luzern – Bürgenstock” เมืองสวยตลอดกาลสุดฮิตกับรีสอร์ทวิวปังสุดฮอต
ซัมเมอร์อินสวิตเซอร์แลนด์ ตอนที่ 3 เที่ยวเอง “Schilthorn” ยอดเขาวิวสวยตะโกน จุดชม Top of Europe แบบเต็มตา
ซัมเมอร์อินสวิตเซอร์แลนด์ ตอนที่ 4 เที่ยวเอง “Jungfraujoch” ที่สุดในยุโรป นั่งรถไฟขึ้นยอดเขาสู่สถานี Top of Europe
ดูแผนที่เส้นทางทั้ง 8 วันของทริปประกอบเพื่อความเข้าใจนะครับ
หลังจากค้างคืนที่เมือง Interlaken 2 คืน สองวันในรีวิวตอนนี้เราจะเดินทางลงไปยังรัฐทางใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ที่มีขื่อว่า Valais
วันที่ 5 ของทริป (วันเที่ยววันที่ 4)
Interlaken – Kandersteg – Oeschinensee – Eggishorn (Aletsch Glacier) – Bellwald (Goms Bridge) – Fieschertal
โปรแกรมวันนี้ค่อนข้างแน่นเพราะมีที่เที่ยวอยู่ไม่ไกลกันมากหลายแห่ง จะแบ่งเป็น 2 วันก็เยอะไปหน่อย
เราไปหน้าร้อนด้วย วันนึงมีเวลาเที่ยวเกิน 12 ชั่วโมง เลยจัดแพลนแบบคุ้มค่า Swiss Travel Pass ไปเลย
เนื่องจากวันนี้ต้องลงไปเที่ยวระหว่างทางที่สถานีรถไฟ Kandersteg และ Fiesch ซึ่งมีที่ฝากกระเป๋าและไม่มี ดังนั้นจึงต้องใช้บริการ Luggage door to door ขนกระเป๋าจากโรงแรมหนึ่งไปส่งที่อีกโรงแรมเลยเพื่อความสะดวกไม่ต้องขนกระเป๋าใหญ่ขึ้นๆ ลงๆ รถไฟและรถเมล์ด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ Luggage door to door service
ไป Kandersteg และ Oeschinensee

ออกจากโรงแรม Bernerhof เดินประมาณ 140 เมตรไปสถานีรถไฟ Interlaken West
ขึ้นรถไฟขบวน IC 61 1062 เวลา 08.35 น. พอถึงสถานี Spiez ก็ลงเพื่อเปลี่ยนเป็นขบวน RE 31545
ที่นั่งชั้น 1 ของขบวนนี้เท่มาก ยังกะที่นั่ง Business Class ของเครื่องบินเลยครับ
09.29 น. รถไฟเข้าจอดที่สถานี Kandersteg
ใช้ Swiss Travel Pass ขึ้นรถไฟฟรีทั้งสองขบวน
เช็คตารางเวลารถไฟสวิตเซอร์แลนด์ได้ที่ www.sbb.ch
สถานีรถไฟนี้มีล็อคเกอร์ฝากกระเป๋าได้ครับ แต่เช็คขนาดกระเป๋าที่ฝากได้แล้ว กระเป๋าเราใหญ่ไปนิดนึง
เช็คข้อมูลได้ที่ Lockers at Kandersteg เลื่อนลงมาแล้วคลิก Equipment and lockers
เรามาหมู่บ้าน Kandersteg เพื่อขึ้นกระเช้าไป Oeschinensee
จากสถานีรถไฟมีรถเมล์สาย 242 ไปสถานีกระเช้าได้ แต่ต้องรออีกนานกว่ารถเมล์จะมา
เดินสิครับ ตรงเข้าถนน Bahnhofstrasse หน้าสถานีรถไฟ ข้ามแม่น้ำเล็กๆ ชื่อ Kander ไปก็ถึงถนนสายหลัก มองไปทางขวาก็เห็นอาคาร Schweizerhof เดี๋ยวค่อยกลับมาถ่ายรูปมุมสวยของ Kandersteg จากสะพานหินหน้าอาคารนั้น
เลี้ยวซ้ายเดินตามถนน Äussere Dorfstrasse ประมาณ 200 เมตรก็เลี้ยวขวาเข้าถนน Bundesrat Adolf Ogi-Strasse เดินไปทางโบสถ์ Mariankirkko ตรงยาวอีกราว 700 เมตรก็ถึงสถานีกระเช้าลอยฟ้า Oeschinensee
ซื้อตั๋วกระเช้า (Gondola) ไป-กลับ ราคา 30 CHF ใช้ Swiss Travel Pass ลดราคาได้ 50%
อัพเดทข้อมูลได้ที่ www.oeschinensee.ch
ขึ้น Gondola ไปยังสถานี Oeschinen (Bergstation)
ใกล้สถานีกระเช้าคือที่เล่น toboggan run (mountain coaster) ซึ่งเป็นกิจกรรมหน้าร้อนที่เราอยากทำมากที่สุด
ปี 2022 เปิดตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. – 23 ต.ค. เฉพาะวันที่อากาศแห้ง ฝนไม่ตกเท่านั้น
เราไปต้นมิถุนาเปิดตั้งแต่ 09.30-16.30 น.
ค่าเล่นจนถึง 11.30 น. สำหรับผู้ใหญ่เที่ยวละ 4 CHF, 5 เที่ยว ราคา 18 CHF หลังจากนี้ค่าเล่นเที่ยวละ 6 CHF, 5 เที่ยว ราคา 27 CHF
อัพเดทวันเปิด-ปิดและค่าเล่นได้ที่ www.oeschinensee.ch/rodeln
ตอนเล่นอยู่อัดเป็นคลิปยาวมา แต่ให้คนดักถ่ายรูปจากข้างบนเลยมีรูปตอนเล่นสวยๆ มาให้ชมครับ
สนุกสุดเหวี่ยงกับการไหลลงเขาตามรางคดโค้งไปมาระยะทางกว่า 750 เมตร พร้อมกับชมวิวภูเขาสูงรอบด้าน สุดฟินจริงๆ ครับ
ไปทะเลสาบ Oeschinen
ระยะเดินจากสถานีกระเช้าถึงทะเลสาบประมาณ 1.7 กม. ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

วิวข้างทางสวยมาก ถ้ามีเวลาและไม่อยากเสียค่ารถแพงมาก แนะนำให้เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ครับ
Oeschinensee (Oeschinen Lake) คือทะเลสาบบนระดับความสูง 1,578 เมตรในเขต Bernese Oberland รัฐ Bern ห่างจากหมู่บ้าน Kandersteg ไปทางตะวันออกประมาณ 4 กิโลเมตร
ทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากแผ่นดินยุบตัวครั้งใหญ่ มีพื้นที่ผิวน้ำประมาณ 1.1 ตารางกิโลเมตร ส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลสาบลึกประมาณ 56 เมตร โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณ Jungfrau-Aletsch-Bietschhorn ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปีค.ศ. 2007
ปกติในช่วงเดือนธ.ค.-พ.ค. น้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด สามารถลงไปเล่นสเก็ตน้ำแข็งได้เลย หรือบางคนก็นิยมตกปลาแบบ ice fishing ซึ่งอุดมไปด้วยปลาเทราต์หลากสายพันธุ์
ช่วงหน้าร้อนน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นสีเขียวสุดงดงาม เหมาะกับการเดินเขาขึ้นไปชมวิวมุมสูงของทะเลสาบ
เรามีเวลาแค่เดินถ่ายรูปริมทะเลสาบครับ ถ้าอยาก hiking ขึ้นเขาต้องมีเวลาอีก 3-4 ชั่วโมง
เที่ยงตรง (หลังรอบนี้คนขับจะพักจนถึงบ่ายโมง) ใช้บริการรถ Elektro Mobil คันสีน้ำเงิน (รถมีทุก 30 นาที ตั้งแต่ 11.30-17.00 น.) จากหน้าโรงแรม Berghotel Oeschinensee กลับสถานีกระเช้า ใช้เวลา 10 นาที ค่ารถเที่ยวละ 8 CHF เด็กอายุไม่เกิน 11 ขวบ 5 CHF แพงมากกก
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.oeschinensee.ch/wanderwegezumsee
นั่ง Gondola ลงเขากลับไปที่สถานี Oeschinensee
เดินกลับทางเดิมไปที่อาคาร Schweizerhof เพื่อถ่ายรูปมุมสวยของ Kandersteg จากสะพานหินหน้าอาคาร
เสร็จแล้วเดินไปรับประทานอาหารกลางวันที่ Restaurant Spycher และเดินประมาณ 500 เมตรกลับสถานีรถไฟ Kandersteg
ไปธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier
รถไฟออกตอน 13.41 น. นั่งไป 41 นาทีก็ลงที่สถานี Brig เดินไปที่ป้ายรถเมล์หน้าสถานีรถไฟ ขึ้นรถเมล์สาย B นั่งไปอีก 34 นาทีก็ถึงป้าย Fiesch, Bahnhof
ใช้ Swiss Travel Pass ขึ้นรถไฟและรถเมล์ฟรี
เช็คตารางเวลารถไฟและรถเมล์สวิตเซอร์แลนด์ได้ที่ www.sbb.ch
เดินเข้าไปในสถานีเคเบิ้ลคาร์ Fiesch
15.30 น. ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ 10 นาทีไปที่สถานี Fiescheralp
15.55 น. ต่ออีกสายขึ้นไปยังสถานี Eggishorn บนยอดเขา ใช้เวลา 5 นาที
เคเบิ้ลคาร์ขึ้นเขาจากสถานีข้างล่างไปยังสถานีแรกบนเขาเปิดตลอดทั้งปี แต่ช่วงต่อขึ้นไปยังสถานีบนยอดเขามักจะปิดปรับปรุงหลังหมดฤดูสกีคือประมาณต้นพ.ค.-ต้นมิ.ย. เพราะฉะนั้นต้องเช็ควันและเวลาเปิด-ปิดในแต่ละเดือน/ฤดูเพื่อให้วางแผนเลือกเส้นทางขึ้นจุดชมวิวได้ถูกต้อง
เช็คข้อมูลได้ที่ www.aletscharena.ch/operating-hours
ค่าตั๋วจากสถานี Fiesch ถึง Fiescheralp สำหรับผู้ใหญ่อายุ 16 ปีขึ้นไป เที่ยวเดียวราคา 20 CHF, ไป-กลับ 27 CHF ถ้าขึ้นต่อไปถึงสถานี Eggishorn ค่าตั๋วสำหรับผู้ใหญ่อายุ 16 ปีขึ้นไป เที่ยวเดียวราคา 41.40 CHF, ไป-กลับ 49 CHF มี Swiss Travel Pass ลดครึ่งราคา
อัพเดทราคาได้ที่ www.aletscharena.ch/einzelfahrten เลื่อนลงมาแล้วคลิก Price list for single
ซื้อตั๋วได้ที่ www.aletscharena.ch/view-point-eggishorn
Eggishorn คือจุดชมวิว Aletschgletscher (Aletsch Arena หรือ Aletsch Glacier) ที่สูงที่สุดอยู่ที่ความสูง 2,869 เมตรจากระดับน้ำทะเล
จากตรงนี้สามารถมองเห็น Aletsch Glacier ธารน้ำแข็งขนาดมหึมาในรัฐ Valais ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในเขตเทือกเขาแอลป์ โดยมีความยาวทั้งหมดกว่า 20 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 81 ตารางกิโลเมตร
แต่ภาวะโลกร้อนทำให้ธารน้ำแข็งมรดกโลกแห่งนี้สั้นและบางลงทุกปี โดยมีการบันทึกข้อมูลไว้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1980 เป็นต้นมา
ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจะมองเห็น Konkordiaplatz (Concordia Place) ลานน้ำแข็งขนาดใหญ่ และยอดเขาสูงชื่อดังของสวิสอย่าง Eiger, Mönch และ Jungfrau ได้อย่างชัดเจน แต่วันนี้ฟ้าไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ครับ
นอกจากยอดเขา Eggishorn แล้วยังสามารถขึ้นชม Aletsch Glacier ได้จากจุดอื่นด้วยคือ Bettmerhorn และ Moosfluh แต่ควรเช็คว่ากระเช้าเปิดหรือไม่โดยเฉพาะช่วงหลังฤดูสกีที่มักปิดเพื่อซ่อมแซม
16.55 น. ลงเคเบิ้ลคาร์รอบสุดท้ายกลับไปที่สถานี Fiescheralp และ Fiesch ใช้เวลา 20 นาที
ไป Hängebrücke Fürgangen – Mühlebach
เดินลงไปที่สถานีรถไฟ Fiesch
17.56 น. นั่งรถไฟ 6 นาทีไปลงที่สถานี Fürgangen Bellwald Talstation (พอรถไฟออกจากสถานีสุดท้ายก่อนถึงสถานีที่ต้องการลงให้กดปุ่มขอให้รถไฟจอดที่สถานีหน้า)
ใช้ Swiss Travel Pass ขึ้นรถไฟฟรี
เช็คตารางเวลารถไฟสวิตเซอร์แลนด์ได้ที่ www.sbb.ch
เดินประมาณ 200 เมตรไป Hängebrücke Fürgangen – Mühlebach (Goms Bridge)
สะพานแขวนความยาว 280 เมตรข้ามแม่น้ำ Rhône ที่อยู่ลึกลงไป 92 เมตร สะพานนี้เปิดใช้เมื่อปีค.ศ. 2015 เป็นเส้นทางเชื่อมต่อ 2 หมู่บ้านคือ Fürgangen และ Mühlebach สถานที่เดินเขายอดนิยม
ตอนเดินข้ามก็จะแกว่งๆ นิดหน่อย หวาดเสียวเล็กๆ ครับ
กลับ Fiesch
รถไฟมาจอดที่สถานี Fürgangen Bellwald Talstation ตอน 18.45 น. กดปุ่มเพื่อแจ้งให้จอดรถไฟด้วย
นั่งรถไฟ 8 นาทีถึงสถานี Fiesch เดินไปที่ป้าย Fiesch, Bahnhof หน้าสถานีรถไฟ ขึ้นรถเมล์สาย 651 แค่ 5 นาที ไปลงที่ป้าย Fieschertal, Dorfplatz
ใช้ Swiss Travel Pass ขึ้นรถไฟและรถเมล์ฟรี
เช็คตารางเวลารถไฟและรถเมล์สวิตเซอร์แลนด์ได้ที่ www.sbb.ch
ที่พักของเราชื่อ Alpenblick Wellnesshotel อยู่ตรงป้ายรถเมล์เลย
โรงแรม 3 ดาวสไตล์สวิสชาเล่ต์ มองเห็นวิวภูเขาอัลไพน์ด้านหน้าและลานสกีด้านหลัง ที่นี่มีบริการสระว่ายน้ำในร่ม บ่อน้ำร้อน ซาวน่าและสตรีม สำหรับผ่อนคลายด้วย
รับประทานอาหารเย็นที่โรงแรม
ค้างคืนในหมู่บ้าน Fieschertal
วันที่ 6 ของทริป (วันเที่ยววันที่ 5)
แพลนวันนี้เดินทางน้อยกว่าทุกวันที่ผ่านมา เราจะไปหมู่บ้าน Saas-Fee ที่เดียว แต่มีไม่ค่อยสบายเท่าไหร่เพราะจะไป hiking ที่ธารน้ำแข็ง 2 ชั่วโมง

ขึ้นรถเมล์สาย 651 จากป้าย Fieschertal, Dorfplatz หน้าโรงแรม ตอน 08.40 น. ย้อนไป 5 นาที ลงที่ป้าย Fiesch, Bahnhof ต่อรถไฟเวลา 08.55 น. อีก 55 นาทีถึงสถานี Visp เดินไปที่ป้าย Visp, Bahnhof Süd หน้าสถานีรถไฟ รอรถเมล์สาย 511 รอบ 10.14 น. นั่งรถเมล์อีก 50 นาทีก็ถึงสถานี Saas-Fee, Busterminal
ใช้ Swiss Travel Pass ขึ้นรถไฟและรถเมล์ฟรี
เช็คตารางเวลารถไฟและรถเมล์สวิตเซอร์แลนด์ได้ที่ www.sbb.ch
ลงรถเมล์ก็เห็นตึกที่พักเลย คืนนี้เราจะพักที่ wellnessHostel4000
โรงแรม 2 ดาว ห้องพักเรียบง่าย เน้นสะดวกเพราะอยู่ใกล้สถานีรถของเมือง
ชั้นใต้ดินคือ Aqua Allalin มีสระว่ายน้ำในร่ม ฟิตเนส ซาวน่า และอ่างจากุซซี่สำหรับแช่ผ่อนคลายหลังเดินเขาหรือเล่นสกี แต่ไม่ให้ถ่ายรูปครับ
ราคาห้องพักตามมาตรฐานสวิสเลยครับ
Saas-Fee คือหมู่บ้านหลักในพื้นที่หุบเขา Saastal ในรัฐ Valais
ซาส-เฟอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,800 เมตร ทำให้มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี
หมู่บ้านปลอดรถยนต์นี้เป็นจุดหมายของผู้ชื่นชอบกิจกรรมฤดูหนาวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น สกี สโนว์บอร์ด ปีนภูเขาน้ำแข็ง และเดินเขา ส่วนฤดูร้อนก็มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง เช่น เดินบนธารน้ำแข็ง ให้อาหารมาร์มอต
เที่ยงวันนี้เราจอง Glacier Tour ไว้ ทัวร์เริ่มต้นที่สถานีเคเบิ้ลคาร์ Spielboden ไกด์จะพาเดินบน Feegletscher (Fee Glacier) ธารน้ำแข็งความยาว 4.7 กม. ขึ้นไปยังจุดสูงสุดของธารน้ำแข็งที่เรียกว่า Panoramaplatz และเดินกลับอีกทางไปที่สถานี Längfluh
ค่าทัวร์สำหรับ 3-4 คน ราคาคนละ 230 CHF ไม่รวมค่าเคเบิ้ลคาร์ Saas-Fee – Spielboden ไป-กลับราคาสำหรับผู้ใหญ่อายุ 16 ปีขึ้นไป 48 CHF (เที่ยวเดียว 31 CHF) เด็กลดครึ่งราคา
รายละเอียดทัวร์ที่ www.saasfeeguides.com/glacier-experience-summer-tour
แต่วันนี้สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ฝนไม่ตกเลย แต่บนธารน้ำแข็งมีหมอกปกคลุมหนาซึ่งอาจเกิดอันตรายเพราะมองไม่เห็นทางตอน hiking ทัวร์เลยต้องแคนเซิล
งั้นเปลี่ยนแผนเป็นขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปกินมื้อเที่ยงที่ร้านตรงสถานี Längfluh และชมความงามของธารน้ำแข็ง Fee แบบใกล้ๆ แทนละกัน
ออกจากที่พัก เดินลงไปยังตัวหมู่บ้าน Saas-Fee
ข้ามสะพานใหญ่เลี้ยวขวาแล้วเดินตรงไปยังสถานีเคเบิ้ลคาร์ Spielbodenbahn ระยะทาง 800 เมตร
ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปที่สถานี Spielboden ต่ออีกคันขึ้นไปยังสถานี Längfluh
ค่าเคเบิ้ลคาร์ Saas-Fee – Längfluh ไป-กลับราคาสำหรับผู้ใหญ่อายุ 16 ปีขึ้นไป 58 CHF (เที่ยวเดียว 38 CHF) เด็กลดครึ่งราคา มี Swiss Travel Pass ได้ส่วนลด 50%
อัพเดทค่าเคเบิ้ลคาร์เส้นทางต่างๆ ได้ที่ www.saas-fee.ch/tarife-fahrplaene-bergbahnen
เข้าร้าน The Glacier ขอเมนูมาดูก่อน
สั่งอาหารสวิสคือ Älpler Rösti ราคา 27.50 CHF มาลองชิมดู รสชาติโอเคแต่เลี่ยนชีสไปนิดนึง
อิ่มแล้ว เดินไปหามุมถ่ายรูป Feegletscher (Fee Glacier) ที่มองลงไปเห็นบ้านเรือนในหมู่บ้าน Saas-Fee ซึ่งล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูงเสียดฟ้า
เดินผ่านร้านอาหารกลับไปที่สถานี Längfluh
ลงเคเบิ้ลคาร์ 1 สถานีไปที่สถานี Spielboden ที่ระดับความสูง 2,450 เมตร
เดินไม่ไกลก็ถึงแหล่งที่อยู่ของเจ้า marmot สัตว์ฟันแทะหน้าตาคล้ายกระรอกแต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก
มาร์มอตเป็นสัตว์กินพืชจำพวกหญ้าและดอกไม้ซึ่งหากินได้ทั่วไปในบริเวณนี้ แต่มีของโปรดเป็นพีนัทและแครอทซึ่งหากินเองไม่ได้
นักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารน้องได้ประมาณ 4 เดือนต่อปี ตั้งแต่เดือนมิ.ย.-ก.ย. เดือนก่อนและหลังจากนี้อาจจะทำได้ถ้าหิมะไม่หนาจนน้องออกจากรูไม่ได้ แนะนำให้ใส่รองเท้าเดินเขาไปครับ
กิจกรรมนี้ได้รับการส่งเสริมให้ทำจากการท่องเที่ยวเมือง Saas-Fee นะครับ
ลงเคเบิ้ลคาร์จากสถานี Spielboden กลับ Saas-Fee (รอบสุดท้าย 16.15 น.)
เดินเข้าหมู่บ้านทางถนน Gletscherstrasse ตรงข้ามแม่น้ำ Feevispa ไปเข้าถนน Dorfstrasse
เลยโบสถ์ไม้ Herz Jesu-Kirche ไปนิดก็เลี้ยวขวาเข้าถนน Wang มองไปข้างหน้าคือร้าน Arvu-Stuba ซึ่งค่ำนี้เราจะกลับมารับประทานอาหาร
ตรงอีกไม่ถึง 300 เมตรก็กลับถึง wellnessHostel4000
ขอเปลี่ยนเสื้อผ้าไปแช่น้ำอุ่นๆ นวดตัวที่ Aqua Allalin ที่ชั้นใต้ดินของที่พัก
สบายตัวแล้ว เดินไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารดังของเมืองชื่อ Arvu-Stuba
ขอเมนูมาดูก่อน
สั่ง Rindsfilet (Beef sirloin) ราคา 54 CHF กับ Kalbsmedaillons (Veal medallions) ราคา 47 CHF พร้อมไวน์แดงมาดื่มคู่ สายเนื้อต้องฟินกับเมนูนี้แน่นอนครับ
คืนนี้ค้างที่ Saas-Fee 1 คืน
*ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงข้อมูลและรูปภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต