ข้ามโลก>>เที่ยวเองอเมริกาใต้ PERÚ ตอนที่ 4 “Titicaca, Peru – Bolivia” ทะเลสาบน้ำจืดที่สูงที่สุดในโลก

เที่ยวเอง รีวิว ทะเลสาบติติคาคา ปูโน่ เปรู โคปาคาบานา โบลิเวีย titicaca lake puno peru copacabana bolivia
Perú คือประเทศหนึ่งใน Latin America Trip ซึ่งเป็นทริปใหญ่ของเที่ยวเองในปีนี้

วันที่ 7 ในเปรู

เมื่อคืนเรานั่งหลับในรถบัสข้ามคืนจาก Cusco มาถึงเมือง Puno ริมทะเลสาบ Titicaca ใกล้ชายแดนโบลิเวียตอนเช้าตรู่

photo credit: www.peruhop.com

ตั้งแต่เช้ามืดเมื่อวานเราออกจาก Cusco กับทัวร์ one day trip ไป hiking ขึ้นภูเขาสายรุ้ง
อ่านเรื่องราวโหดๆ มันๆ ได้ที่ ข้ามโลก>>เที่ยวเองอเมริกาใต้ PERÚ ตอนที่ 3 “Apu Winicunca” พิชิตภูเขาสายรุ้งบนความสูงกว่า 5,000 เมตร

ย้อนไปเที่ยวทะเลแคริบเบียนที่ Cuba และ 6 วันก่อนใน Peru ตามลิ้งค์นี้เลยครับ
ย้อนยุค 60s เที่ยวเอง CUBA ตอนที่ 1 “Havana” เมืองโคตรศิลป์เสน่ห์แห่งแคริบเบียน
ย้อนยุค 60s เที่ยวเอง CUBA ตอนที่ 2 “Trinidad” พูดเลย! สายติสท์ต้องถูกใจ
ข้ามโลก>>เที่ยวเองอเมริกาใต้ PERÚ ตอนที่ 1 “Lima” จุดตั้งต้นสู่เทือกเขาแอนดีส
ข้ามโลก>>เที่ยวเองอเมริกาใต้ PERÚ ตอนที่ 2 “Machu Picchu – Cusco” ตะลุยดินแดนลี้ลับแห่งอินคา

รีวิวตอนที่แล้วได้เขียนบอกแล้วว่าเราซื้อตั๋วรถบัสเส้นทาง Cusco – Puno – Copacabana – La Paz ราคา 59 USD + Floating Islands Tour เพิ่มอีก 10 USD มี service charge อีก 3.45 USD = 72.45 USD (2,360 บาท)

เช็คตารางเวลา ค่าตั๋วรถบัส+อ๊อปชั่นทัวร์ และซื้อออนไลน์ได้ที่ Peru Hop bus แล้วเลือกเส้นทางที่ต้องการเดินทาง เช่น Peru Hop bus Cusco – La Paz

เช็คจากเว็บไซต์ของ Bolivia Hop ซึ่งเป็นบริษัทร่วมกันก็ได้ เช่น Bolivia Hop bus Cusco – La Paz

หรือ ไปซื้อที่ออฟฟิศที่ 172 Meson de la Estrella วันจันทร์-ศุกร์ 09.30-20.30 น. วันเสาร์ 09.30-19.30 น. วันอาทิตย์ 10.30-20.30 น.
เช็คแผนที่ได้ที่ Contact Peru Hop

อ่านข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับรถบัสเส้นทาง Cusco – Puno – Copacabana – La Paz ได้ที่ howtoperu.com

ตี 4 ครึ่ง รถบัสหยุดจอดซักที่ในเมือง Puno (กำหนดในเว็บคือ 6 โมงเช้า) ตื่นมาดูนาฬิกาแล้วหลับต่อ หายวืบไปพักใหญ่ ไกด์ก็มาถามว่าใครจะกินอาหารเช้าบ้าง 9 sol (90 บาท) กินสิครับ เดี๋ยวเที่ยวไม่ไหว

เดินกลับมาที่รถบัสตอน 6 โมงเช้า แล้วเดินไปท่าเรือที่อยู่ไม่ไกลพร้อมกับคนที่ไม่ได้ไปกิน

เช้านี้เราจะลงเรือไปยัง Islas flotantes de los Uros (Uros Floating Islands) กลุ่มเกาะลอยน้ำในทะเลสาบ Titicaca ใช้เวลา 25 นาที

Lago Titicaca หรือทะเลสาบติติคาคาคือทะเลสาบน้ำจืดที่อยู่สูงที่สุดในโลกที่ความสูง 3,812 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้กินเนื้อที่ถึง 8,372 ตารางกิโลเมตร โดยเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศเปรูกับโบลิเวีย

photo credit: www.mysteryperu.com

ด้วยความที่ในทะเลสาบมีพืชน้ำชื่อ totora (คล้ายหญ้าหรือใบจาก) ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมากมาย ชาว Uru (Uros) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บริเวณนี้มานานกว่าพันปีจึงใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติพิเศษของต้น totora มาสร้างเป็นเกาะลอยน้ำอยู่อาศัยกลางทะเลสาบติติคาคาหลายร้อยเกาะ ปัจจุบันมีประชากรราว 2,200 คน พวกเค้าพูดสแปนิชไม่ได้ แต่ระยะหลังเด็กๆ เริ่มได้เข้ามาเรียนหนังสือในเมืองมากขึ้นจึงพอมีคนสื่อสารภาษาสเปนได้บ้าง

ดูหน้าตาชาว Uru หน่อยละกัน

สิ่งที่เจ๋งและชอบมากๆ คือ balsa หรือเรือรูปกล้วยหอมทำจากต้น totora ที่ใช้เป็นพาหนะเดินทางระหว่างเกาะต่างๆ และแผ่นดินใหญ่ของเปรู

ไกด์บรรยายให้ข้อมูลพอสังเขปแล้วก็ปล่อยให้อุดหนุนของพื้นเมืองฝีมือของชาว Uru และถ่ายรูปบันทึกความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยเดินทางมาที่นี่แล้ว

อยู่บนเกาะเกือบชั่วโมง จากนั้นก็นั่งเรือกลับถึงเมือง Puno ตอน 8 โมง

ข้อดีของ Peru Hop คือสามารถแวะเที่ยวเกาะ Uros ที่ Puno แล้วเดินทางต่อเข้าประเทศโบลิเวียไปเมือง Copacabana แวะเที่ยว และไป La Paz ต่อเย็นวันนั้นเลย หรือจะพักค้างคืนที่ Puno หรือ Copacabana แล้วค่อยเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้นตามตารางรถบัสที่แจ้ง

เราเลือกเดินทางต่อเลยครับ

8 โมงครึ่ง รถบัสออกจาก Puno นั่งรถ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ต้องขนสัมภาระทุกชิ้นลงจากรถไปผ่านพิธีการตรวจคนออกเมืองฝั่งเปรูตอน 11 โมง

ตรงนี้มีร้านแลกเงินอยู่ เลยแลกกันคนละ 100 USD ได้เงิน Bolivian boliviano ตัวย่อคือ Bs. หรือ BOB มา 690 BOB + เงินเปรูอีก 105 sol ได้เงินมา 210 BOB เหรียญก็แลกได้นะครับ

โดย tipo de cambio (exchange rate) คือ 1 BOB = 0.14 USD / 1 USD = 6.90 BOB / 1 BOB = 4.60 บาท

ลากกระเป๋าข้ามเข้าสู่ประเทศ Bolivia

ทำเรื่องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งโบลิเวีย เราขอวีซ่าจากสถานทูตโบลิเวียที่ Cusco มาก่อนแล้วจึงไม่ต้องกรอกเอกสารอะไรมากมายและไม่ต้องจ่ายธรรมเนียม visa on arrival 100 USD ด้วย

อ่านวิธีการ ขั้นตอน และเอกสารต่างๆ ที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าโบลิเวียได้จากรีวิวตอน Machu Picchu – Cusco นะครับ เขียนไว้แบบละเอียดยิบ
ข้ามโลก>>เที่ยวเองอเมริกาใต้ PERÚ ตอนที่ 2 “Machu Picchu – Cusco” ตะลุยดินแดนลี้ลับแห่งอินคา

คนไทยสามารถขอวีซ่าโบลิเวียล่วงหน้าได้ฟรีที่สถานทูตโบลิเวียในเมืองใหญ่ เช่น Cusco และ Puno ของเปรู Santiago เมืองหลวงของชิลี Buenos Aires เมืองหลวงของอาร์เจนตินา ใช้เวลาทำการ 1-2 วัน แต่บางแห่งรอรับในวันที่ขอได้เลย วีซ่าดังกล่าวสามารถอยู่ในโบลิเวียได้ไม่เกิน 30 วัน

ถ้าขอวีซ่าที่สนามบินหรือด่านตรวจคนเข้าเมืองทางบกต้องจ่ายค่าวีซ่า 100 USD เมื่อก่อนขอที่ด่านทางบกมักมีปัญหาตม.ตุกติกเรียกเงินเพิ่มด้วย แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่ายังมีอยู่มั้ยนะครับ

การเดินทางเข้าโบลิเวียต้องมีสมุดเล่มเหลืองยืนยันว่าได้รับการฉีดวัคซีนไข้เหลืองแล้ว โดยฉีดได้ที่สถานเสาวภา ถ. อังรีดูนังต์ ไม่ต้องนัดคิว ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,200 บาท หรือนัดคิวกับคลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ที่ www.thaitravelclinic.com ฉีดวัคซีนล่วงหน้าก่อนเดินทาง 10-14 วัน วัคซีนมีอายุ 10 ปี แต่จริงๆ ตอนนี้ได้ตลอดชีวิตแล้ว

เนื่องจากพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของโบลิเวียอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเลเกิน 3,000 เมตร ดังนั้นจึงควรเตรียม Diamox ยาป้องกันโรค AMS หรือ acute mountain sickness (altitude sickness) ไปด้วย

อ่านข้อควรรู้ก่อนวางแผนมาเที่ยวโบลิเวียได้ที่ 10 ข้อน่ารู้สำหรับไป “เที่ยวเอง” ที่โบลิเวีย

พิธีการผ่านแดนของทั้ง 2 ประเทศใช้เวลารวมประมาณ 1 ชั่วโมง

ตอนนี้ตรงกับเวลาบ่ายโมงของโบลิเวียและเที่ยงของเปรู ขึ้นรถบัสของฝั่งโบลิเวียไปเมือง Copacabana อีก 30 นาที

เวลาเปรูช้ากว่าโบลิเวีย 1 ชั่วโมง และเวลาโบลิเวียช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง

บ่ายโมงครึ่ง รถบัสมาถึง White Anchor ริมทะเลสาบติติคาคา

photo credit: Douglas Fernandes

ถ้าใครซื้อทัวร์ไป Isla del Sol (Island of the Sun) ในทะเลสาบ Titicaca ซึ่งตามตำนานของอินคากล่าวว่าเป็นสถานที่เกิดของสุริยเทพ (Sun God) ของชาวอินคาที่เรียกว่า Inti ก็ให้ตามไกด์ไป ทัวร์จะออกประมาณบ่ายสองจากท่าเรือ White Anchor จะกลับมาขึ้นรถบัสต่อเข้า La Paz เลย หรือจะค้างคืนบนเกาะหรือในเมือง Copacabana แล้วค่อยกลับมาขึ้นรถบัสตอนเย็นอีกวันก็ได้ ลูกค้า Bolivia Hop ฝากกระเป๋าฟรีที่ร้านอาหารตรง White Anchor เลย

เราไม่ได้ซื้อทัวร์นี้เพิ่มตอนซื้อตั๋วรถบัสออนไลน์เพราะอยากได้ภาพทะเลสาบติติคาคาจากที่สูงเหนือเมือง Copacabana มากกว่าและขี้เกียจเดินเขาหลายชั่วโมงบนเกาะด้วย ยังไม่หายล้าจากการเดินขึ้น Rainbow Mountain เลย 555

เก็บของไว้ในรถแล้วเดินเข้าเมืองไปหาอะไรกินก่อน เดินเข้าถนน Avenida 6 de Agosto ทางซ้ายมือ ขึ้นเนินไปที่ Plaza Sucre มีร้านอาหารญี่ปุ่น+ไทยชื่อ Thai Palace ร้านนี้ลูกค้า Bolivia Hop ได้ส่วนลด 10%

สั่งเป็นเซ็ตเมนูมาเลย มี starter เป็นผักกะหล่ำ บร็อคโคลี่ แกงอินเดีย เมนูจานหลักขอลอง Llama al Curry (Llama Steak with Curry) เนื้อลามะแกงกะหรี่ รสชาติคล้ายเนื้อแกะ ไม่มีกลิ่นสาบนะครับ และปิดท้ายด้วยไอติม โค้กที่นี่ขวดละ 6 BOB (เกือบ 30 บาท)

สั่งซูชิใส่กล่องล่วงหน้าไว้กินบนรถบัสเย็นนี้เลย เดี๋ยว 5 โมงครึ่งกลับมาเอา

บ่าย 3 โมง จาก Plaza Sucre ที่มีรถบัสไป La Paz ได้ แต่ไม่รู้ออกตอนไหนและถึงลาปาซกี่โมง

ดู google offline map เล็กน้อยแล้วเดินไปทางทิศเหนือของเมือง หาทางขึ้นไปยังจุดถ่ายรูปเมือง Copacabana และทะเลสาบติติคาคาจากมุมสูงที่ Cerro Calvario

ระหว่างทางมีหมาเจ้าถิ่นหลายตัว บางตัวก็ดูไม่เป็นมิตรกับคนหน้าแปลกแบบเราเท่าไหร่ แต่พระคุ้มครองครับ ตั้งแต่ตอนขึ้นบันไดมาเลย มีหมาตัวใหญ่หน้าตาน่าจะเป็นมิตรเดินอยู่ใกล้ๆ เราตลอด ตอนแรกก็ระวังตัว ไม่รู้มันมาดีหรือมาร้าย แต่พอเราหยุดพักเหนื่อยและถ่ายรูป มันก็หยุดตามเราด้วย พอเราเดินต่อ มันก็เดินนำหน้าและขู่ตัวอื่นเสมือนว่ากำลังปกป้องเราอยู่ มันเดินไปส่งถึงที่เลยครับ #แต้มบุญอีกแล้ว 55

เก็บภาพระหว่างทางสวยๆ แบบนี้ครับ

พอเห็นรูปปั้นพระเยซูตรึงไม้กางเขนก็แปลว่าถึงจุดชมวิวระดับแรกแล้ว

จุดนี้จะมองเห็นแค่ทะเลสาบ Titicaca แต่ไม่เห็นตัวเมือง Copacabana

ต้องเดินขึ้นบันไดอีก 5 นาทีมั้งกว่าจะถึงจุดสูงสุดที่เห็นทั้งเมืองและทะเลสาบอยู่ข้างล่าง ตรงนี้เป็นสุสานฝังศพครับ เผื่อเวลาเดินจากตัวเมืองมาที่นี่ไว้ซักครึ่งชั่วโมงนะครับจะได้ไม่เหนื่อยจากการรีบเดิน

เดินหามุมถ่ายรูปตามสบายเลยครับ

เกือบ 5 โมง เดินลงเขากลับทางเดิมไปเอาซูชิที่สั่งไว้ แล้วเดินลงไปที่ White Anchor รอรถบัสมารับไป La Paz ตอน 6 โมงเย็น

เค้าว่าเส้นทางช่วงนี้โค้งไปโค้งมาเยอะ เลยกินยาแก้เมากันไว้ก่อน

ชั่วโมงนึงผ่านไป ทุกคนต้องลงจากรถบัสแล้วเดินตามไกด์ไปขึ้นเรือ ส่วนรถบัสก็ลงแพข้ามช่องแคบ Tiquina

พอข้ามทะเลสาบแล้ว ไกด์ให้แวะเข้าห้องน้ำและซื้อของกินรองท้อง

จากนั้นนั่งรถยาวอีกประมาณ 3 ชั่วโมงเข้ากรุง La Paz เมืองหลวงของประเทศโบลิเวีย

photo credit: www.kanootours.com

ไกด์เช็คว่าแต่ละคนพักที่ไหนกันบ้างและจัดคิวไปส่งถึงโรงแรมเพราะตอนมืดแล้วไม่ค่อยปลอดภัย

ตอนซื้อตั๋วในเว็บมีแผนที่แสดงพื้นที่ที่รถบัสจะไปส่ง ถ้าเลือกที่พักออกนอกเขตดังกล่าวจะต้องเดินทางเข้าที่พักเอง แนะนำว่าให้เลือกที่พักใกล้ๆ Mercado de las Brujas หรือ Witches’ Market นะครับ เดินเที่ยวสะดวกและค่อนข้างเซฟ

รถบัสจอดส่งหน้า Hotel Sagarnaga เกือบ 5 ทุ่ม เราจะพักที่นี่ 3 คืน ค่าห้องพักทั้งหมด 772 BOB (114.11 USD) มีอาหารเช้า แชร์กันจ่ายแค่คนละ 1,800 บาทเองครับ

คืนนี้ค้างที่ La Paz เป็นคืนแรก

ข้อมูลเพิ่มเติม

ถ้าเลือกวิธีการบินจาก Cusco ไป La Paz เลย มีสายการบินให้บริการคือ

  • Peruvian Airlines ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงถึง Aeropuerto Internacional El Alto (LPB), La Paz ค่าตั๋วเครื่องบินตอนที่ search ราคา 158.12 USD (ราคาก่อนรวม tax 124 USD)

เช็คตารางเวลาและราคาไฟลท์บินได้ที่ www.peruvian.pe

  • Amaszonas ใช้เวลาเดินทาง 55 นาทีถึง Aeropuerto Internacional El Alto (LPB), La Paz แต่ไม่มีไฟลท์บินทุกวัน ค่าตั๋วเครื่องบินตอนที่ search ราคา 159.30 USD (125 USD ยังไม่รวม tax)

เช็คตารางเวลาและราคาไฟลท์บินได้ที่ www.amaszonas.com

*ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงข้อมูลและรูปภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต