กลับมาสเปนอีกครั้ง คราวนี้ไม่พลาดกรานาดาแล้ว
สองวันแรกในประเทศสเปน เราเดินเที่ยวในกรุง Madrid และเดินทางลงใต้เข้าสู่แคว้น Andalucía เริ่มต้นเที่ยวเมืองแรกที่ Córdoba
อ่านรีวิวทั้ง 2 ตอนก่อนหน้าได้ที่
ติดใจ! สเปน ตอนที่ 1 เที่ยวเอง “Madrid” รอบ 3 เมืองหลวงที่เดินเที่ยวง่ายที่สุดในยุโรป
ติดใจ! สเปน ตอนที่ 2 เที่ยวเอง “Córdoba” รอบ 2 เมืองเก่าแก่ที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายโรมันและอิสลาม
วันที่ 3 ของทริป ไปเที่ยว Granada กัน

จากเมือง Córdoba มีรถไฟตรงไป Granada หลายขบวนต่อวัน เลือกเวลา 09.19 น. กำลังดี
รถไฟความเร็วสูงขบวน AVE 02076 เดินทางถึงสถานีรถไฟ Estación de Granada 10.54 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 35 นาที
เช็คเวลาและซื้อตั๋วรถไฟสเปนได้ที่ www.renfe.com
สถานีรถไฟอยู่ใกล้ศูนย์กลางเมือง Granada กว่าสถานีรถบัส แต่มีรถสาธารณะต่อเดียวเข้าถึงกลางเมืองเหมือนกัน
จากสถานีรถไฟ Estación de Granada เดินไปที่ป้าย Constitución 3 V นั่งรถเมล์สาย 21, 33 หรือสาย 4 จากป้าย Avda. Constitución 27 – Estación Ferrocarril ที่อยู่ใกล้กัน เข้าศูนย์กลางเมืองไปที่ Catedral de Granada ค่าตั๋ว Billete Ordinario ราคาเที่ยวละ 1.40 ยูโร
เช็คเส้นทางรถเมล์สายต่างๆ ในเมืองได้ที่ Granada bus routes
อัพเดทค่าตั๋วได้ที่ Granada bus fare
จากสถานีรถบัส Estación de Autobuses de Granada นั่งรถเมล์สาย 33 จากป้ายด้านหน้าสถานีประมาณ 10 นาที เข้าศูนย์กลางเมืองไปที่ Catedral de Granada เช่นกัน
จาก Catedral de Granada เดินไปที่สี่แยกข้างหน้า ตรงนั้นคือ Plaza de Isabel la Católica ที่มีรูปปั้นของพระนางเจ้า Isabella ที่ 1 ขณะกำลังรับสั่ง Christopher Columbus
เดินเข้าถนนทางขวามือด้านหลังรูปปั้นแล้วเลี้ยวขวาเดินตามถนนแคบๆ ลัดไปจนสุดทาง โรงแรม Sercotel Palacio de los Gamboa อยู่ทางซ้ายมือ
โรงแรมระดับ 4 ดาวใจกลางเมืองนี้เก๋มาก ตกแต่งแบบเรียบหรูออกแนววินเทจ
ห้องพักกว้าง โปร่ง สบายตาด้วยโทนสีขาวและน้ำตาล ดูคลาสสิกมากๆ
กินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ๆ โรงแรม เปลี่ยนรสชาติจากอาหารฝรั่งบ้างครับ
พร้อมเที่ยว Granada แล้ว
Granada คือเมืองหลวงของจังหวัด Granada แห่งแคว้น Andalucía (Andalusia) ทางภาคใต้ของประเทศ
ในอดีตกรานาดาอยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิม (ชาวมัวร์จากแอฟริกาเหนือ) ตั้งแต่ปีค.ศ. 711 โดยเป็นเมืองหลักของดินแดน Al-Andalus (บริเวณคาบสมุทรไอบีเรียและเซปทิเมเนีย) ในศตวรรษที่ 11 จนถึงศตวรรษที่ 13 ได้เป็นเมืองหลวงของ Emirate of Granada หรือ Nasrid Kingdom of Granada

จนกระทั่งปีค.ศ. 1492 กองทัพคาทอลิกของพระเจ้า Ferrando ที่ 2 กษัตริย์แห่ง Aragon ชนะสงคราม Granada ยึดครองกรานาดาได้สำเร็จและเปลี่ยนแปลงให้เป็นเมืองคริสเตียน นับเป็นการสิ้นสุดการปกครองของมุสลิมที่ยาวนานกว่า 780 ปี
เขตศูนย์กลางเมือง Granada เป็นที่ราบ ส่วนบ้านเมืองบนเนินเขาทางเหนือของเมืองคือเขต Albaicín ซึ่งมีจุดชมวิวที่ดังที่สุดของกรานาดา

เราจะไปสถานที่ที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญที่สุดของเมืองซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นั่นก็คือ Alhambra
เดินกลับไปที่จัตุรัส Plaza de Isabel la Católica
เลี้ยวขวาที่สี่แยกหลักเข้าถนน Calle Reyes Católicos ตรงไปไม่ถึง 200 เมตรก็ถึงจัตุรัสกลางเมืองชื่อ Plaza Nueva
เลี้ยวขวาเดินขึ้นทางลาดแคบๆ ของถนน Cuesta de Gomérez ตามป้ายบอกทางไป Alhambra เล็กๆ (ถนนตรงกับน้ำพุตามรูป)
ตรงผ่านประตู Puerta de las Granadas ขึ้นเนินไปยัง Alhambra เข้าทางประตู Puerta de la Justicia (ระยะทางประมาณ 600 เมตร)
ถ้าไม่อยากเดิน จากด้านหน้ารูปปั้นของพระนางเจ้า Isabella ที่ 1 ที่ Plaza de Isabel la Católica ตรงเข้าถนนทางซ้ายไปนิดก็จะเห็นป้ายรถเมล์ชื่อ Plaza Isabel la Católica 4 ขึ้นรถเมล์เล็กสาย C30 หรือ C32 ขึ้นเขาไปลงที่ประตู Puerta de la Justicia ตั๋ว Billete Ordinario ราคาเที่ยวละ 1.40 ยูโร ซื้อจากคนขับได้
เช็คเส้นทางรถเมล์ได้ที่ Granada bus 30 route และ Granada bus 32 route
เราเดินขึ้นไปครับ แต่ใช้รูปตั๋วที่ซื้อตอนเช้าวันรุ่งขึ้นแทน
Alhambra คือป้อมปราการและพระราชวังสุดอลังการบนเนินเขา Sabika กลางเมืองกรานาดา
ชื่อ Alhambra มาจากภาษาอารบิกว่า qa’lat al-Hamra’ ที่มีความหมายว่า Red Castle หรือปราสาทสีแดง เนื่องจากป้อมปราการก่อสร้างด้วยหิน ดิน และอิฐสีแดง
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า Alhambra มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ต่อมาได้มีการต่อเติมปราสาทเข้าไปในบริเวณป้อมปราการเพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นทางการทหารที่สามารถมองเห็นเมืองด้านล่างได้อย่างทั่วถึง จนกระทั่งศตวรรษที่ 13 ในรัชสมัยของ Mohammed ben Al-Hamar (Muhammad I of Granada) หรือพระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 1 อิบน์ นัสร์ สุลต่านพระองค์แรกของราชวงศ์ Nasrid ที่ปกครองดินแดน Emirate of Granada (Nasrid Kingdom of Granada) บนคาบสมุทรไอบีเรียตั้งแต่ปีค.ศ. 1238-1273 จึงมีการสร้างพระราชวังในอาณาเขตของ Alhambra และต่อเติมห้องและอาคารต่างๆ เช่น โรงอาบน้ำ มัสยิด (Mezquita) ในรัชสมัยของพระเจ้า Muhammad ที่ 2 และ 3, พระเจ้า Yusuf ที่ 1 และพระเจ้า Muhammad ที่ 4
ความยิ่งใหญ่และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของอลัมบรา (อัลฮัมบรา) องค์การยูเนสโกจึงทำการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1984
การเข้าชม Alhambra ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้านานๆ (เกิน 1 เดือนยิ่งดี) เพราะต้องระบุวันและเวลาเข้าชมทันทีโดยเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ละวันและเวลา Nasrid Palaces จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกิน 300 คนต่อรอบ มีรอบทุก 30 นาที ตั๋วถูกซื้อล่วงหน้าเต็มทุกวันทุกเวลาเสมอครับ
ซื้อตั๋วได้ที่เว็บไซต์ทางการนี้ https://tickets.alhambra-patronato.es/
เวลาเปิด-ปิด วันที่ 1 เม.ย. – 14 ต.ค. วันจันทร์-อาทิตย์ 08.30-20.00 น., วันที่ 15 ต.ค. – 31 มี.ค. วันจันทร์-อาทิตย์ 08.30-18.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. และ 1 ม.ค. ปิด
ค่าเข้าชม Alhambra General ราคา 14 ยูโร รวม Alcazaba, Nasrid Palaces, Generalife และสวน ถ้าเข้าชมสวนอย่างเดียว ค่าเข้า 7 ยูโร
นำพาสปอร์ตตัวจริงสำหรับใช้เข้าชมไปด้วย ควรเผื่อเวลาเที่ยวไว้ 3-4 ชั่วโมง
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.alhambradegranada.org
Alhambra เป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่บนเนินเขาซึ่งประกอบด้วยป้อมปราการ หอคอย พระราชวัง โบสถ์ สวน และโรงแรม อยู่ภายในอาณาบริเวณ

จุดแรกในอาณาเขตของ Alhambra ที่เดินไปถึง Plaza de los Aljibes de la Alhambra ลานโล่งที่มองเห็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Alcazaba
เดินเข้าประตูไปยัง Palacio de Carlos V แป๊บนึงก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลาเข้า Nasrid Palaces
Palacio de Carlos V (Palace of Charles V) คืออดีตพระราชวังของราชวงศ์ Nasrid อยู่ที่จุดสูงสุดของเนินเขา Sabika
หลังจากกษัตริย์มัวร์สิ้นอำนาจปกครองกรานาดา พระราชวังนี้จึงถูกออกแบบและก่อสร้างให้เป็นที่ประทับของพระเจ้า Carlos ที่ 5 พระมหากษัตริย์แห่งสเปน
อาคารชั้นนอกเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนชั้นในเป็นทรงกลมโล่งไม่มีหลังคา
เดินไปเข้าชม Palacios Nazaríes ตามเวลาที่จองไว้
Palacios Nazaríes (Nasrid Palaces) หรือ Nazareth Palaces คือพระราชวังของสุลต่าน Al-Hamar แห่ง Granada ในศตวรรษที่ 13 ซึ่งประกอบด้วยพระราชวังที่มีบริเวณของตัวเอง ได้แก่ Mexuar, Palacio de Comares (Comares Palace) ของกษัตริย์ Yusuf ที่ 1 และ Palacio de los Leones (Palace of the Lions) ของกษัตริย์ Mohammed ที่ 5
จากนั้นเดินกลับไปเข้าชม Alcazaba ป้อมปราการนี้คือส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของอลัมบราสร้างในศตวรรษที่ 13 โดยสุลต่าน Al-Hamar หรือพระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 1 อิบน์ นัสร์ โดยมีหอคอยที่ใหญ่ที่สุดคือ Torre de la Vela
เดินขึ้นไปข้างบนป้อมถ่ายรูปมุมสูงของเมืองกรานาดาที่มองเห็น Catedral de Granada และอีกฝั่งคือเขต Albaicín
ในเขต Albaicín มีจุดชมวิวยอดฮิตที่ทุกคนที่มาเที่ยวกรานาดาต้องไป จุดนั้นมีชื่อเรียกว่า Mirador de San Nicolás ด้านหน้าโบสถ์ Iglesia de San Nicolás
บนเนินเขาอีกลูกที่อยู่ไม่ไกลจาก Alhambra เป็นที่ตั้งของ Palacio del Generalife ซึ่งใช้ตั๋ว Alhambra General เข้าชมได้
เดินผ่านพระราชวัง Palacio de Carlos V และโรงแรม Parador de Granada ออกนอกเขต Alhambra อีกทางหนึ่ง
เดินไปทางซ้ายเข้าไปยังสวนในอาณาเขตของ Generalife จากตรงนี้มองกลับไปก็เห็นแนวป้อมกำแพงของ Alhambra และบ้านเรือนในเขต Albaicín
เดินไปเข้าชม Palacio del Generalife (Generalife Palace) พระราชวังฤดูร้อนของสุลต่าน Muhammad ที่ 2 และ 3 แห่งราชวงศ์ Nasrid ผู้ปกครองดินแดน Emirate of Granada (Nasrid Kingdom of Granada)
ถ้าจะไปจุดชมวิว Mirador de San Nicolás ให้เดินกลับไปที่ประตู Puerta de la Justicia แล้วนั่งรถเมล์เล็กสาย C32 ตั๋ว Billete Ordinario ราคา 1.40 ยูโร ซื้อจากคนขับได้
แต่เรายังไม่ได้ไป Catedral de Granada และอยากขึ้นจุดชมวิวเก็บภาพ Alhambra ตอนเย็นๆ มากกว่า เลยเดินลงเขากลับไปที่ Plaza Nueva จากจัตุรัสนี้มีทางเดินขึ้นเนินเขาไปยังจุดชมวิว Mirador de San Nicolás 3 เส้นทาง แต่รอเย็นกว่านี้ค่อยเดินขึ้นไปครับ
เดินกลับไปที่จัตุรัส Plaza de Isabel la Católica อีกครั้ง
เลี้ยวขวาเข้าถนนด้านหน้ารูปปั้น เดินไปนิดก็เห็นประตูรั้วทางเข้า Capilla Real de Granada (Royal Chapel of Granada) สิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมแบบ Isabelline ที่สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ. 1505-1517 ก่อนการก่อสร้าง Catedral de Granada ที่นี่เป็นสถานที่ฝังพระศพของพระเจ้า Ferrando ที่ 2 และพระนางเจ้า Isabella ที่ 1 พระราชินีของพระองค์
อาคารติดกันด้านหลังคือ Catedral de Granada (Granada Cathedral) หรือ Cathedral of the Incarnation
วิหารคาทอลิกแห่งกรานาดานี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1518 ตามรับสั่งของพระนางเจ้า Isabella ที่ 1 พระราชินีแห่ง Castile ภายหลังได้รับชัยชนะในสงคราม Granada เหนือกษัตริย์มุสลิมแห่งราชวงศ์ Nasrid เมื่อกว่า 25 ปีก่อน
วิหารเปิดให้เข้าชมวันจันทร์-เสาร์ 10.00-18.15 น., วันอาทิตย์ 15.00-18.15 น.
วันที่ 25 ธ.ค. และ 1 ม.ค. ปิด ค่าเข้าชม 5 ยูโร
อัพเดทข้อมูลได้ที่ https://catedraldegranada.com/
เดินกลับไปที่ Plaza de Isabel la Católica และ Plaza Nueva แล้วเดินขึ้นเนินเขาในเขต Albaicín ไปยังจุดชมวิว Mirador de San Nicolás
เราเดินขึ้นทางถนนตรงน้ำพุที่ Plaza Nueva (คนละทางกับทางขึ้น Alhambra) ผ่านโบสถ์เล็กๆ ที่ Plaza San Gregorio ดู Google map นำทางซอกแซกตามถนนหินแคบๆ เป็นระยะๆ ครับ (ระยะทางราว 800 เมตร)
Mirador de San Nicolás คือลานด้านหน้าโบสถ์ Iglesia de San Nicolás เป็นจุดชมวิวยอดฮิตที่ใครๆ ก็ต้องมาเก็บบรรยากาศและถ่ายรูป Alhambra จากมุมกว้างที่มองเห็นได้แบบเต็มๆ
ที่นี่คนเยอะมากตลอดทั้งวัน เย็นนี้ถ่ายได้แค่รูปวิวครับ
ถ่ายจากลานด้านล่างและจ่ายเงิน 2.50 ยูโร ขึ้นหอคอยโบสถ์ไปเก็บภาพที่ได้มุมสูงกว่า สวยงามไม่แพ้กันครับ
พรุ่งนี้เช้าเราจะกลับมาถ่ายรูปตัวเองกับฉาก Alhambra ก่อนที่คนมาแห่กันมาเต็มจนถ่ายไม่ได้ครับ
ค่ำนี้เราจองโต๊ะดูระบำ flamenco ที่ Restaurante Jardines de Zoraya ไว้ตอนสามทุ่ม
จาก Mirador de San Nicolás เดินตาม Google map แค่ 200 เมตรก็ถึงร้าน
ดูเมนูก่อนครับ
มื้อค่ำของเราในวันนี้คือ Grilled Mussels และ Roasted Artichokes เป็นจานเรียกน้ำย่อย ส่วนจานหลักคือ Grilled Octopus และ Fillet of Beef
ดูระบำฟลาเมงโกซึ่งเป็นการเต้นรำพื้นเมืองของแคว้นอันดาลูเชียไม่เข้าใจแต่แค่ฟังเสียงรองเท้ากระทบพื้นเวทีรัวๆ กับลีลาการเต้นแบบอินเนอร์มาเต็มก็มันสุดๆ แล้วครับ
เดินย่อยอาหารลงเขาผ่าน Plaza Nueva กลับโรงแรม (ระยะทางประมาณ 1.7 กม.)
วันรุ่งขึ้น
เช้านี้พอมีเวลาให้กลับไปแก้ตัวถ่ายรูปที่จุดชมวิว Mirador de San Nicolás อยู่
ขาไปกะจะขึ้นรถเมล์เล็กสาย C31 หรือ C32 จากป้าย Plaza Nueva เพื่อจะได้ไปถึงจุดชมวิวก่อนฟ้าสว่างเต็มที่ แต่ยังเช้าอยู่ไม่รู้รถเมล์จะมากี่โมง เลยเดินขึ้นเขาอีกรอบ เล่นเอาหอบอีกหน 555
ไปถึง Mirador de San Nicolás ก่อนฟ้าสว่างพอดี เช้าๆ แบบนี้มีคนมารอถ่ายรูปแค่ 3-4 คนเอง เลือกมุมถ่ายรูปได้สบายเลยครับ
ขากลับ เดินลงจากจุดชมวิว รถเมล์เล็กสาย C31 มาพอดี นั่งรถลงเขากลับเข้าเมืองไม่ถึง 10 นาทีก็ลงที่หน้าโบสถ์ Catedral de Granada เดินผ่าน Plaza de Isabel la Católica กลับโรงแรม
เมืองต่อไปเราจะลงใต้ไปริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เมือง Málaga อ่านเรื่องราวได้ในรีวิวตอนหน้าครับ
*ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงข้อมูลและรูปภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต