Ukraine คืออีกประเทศที่เราอยากไปเที่ยวเองมานานแล้ว
รีวิวนี้เป็นรีวิวตอนสุดท้ายของ Ukraine Trip และเป็นตอนต่อจากรีวิว 2 เมืองของยูเครน คือ Kiev และ Odessa
ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ
Ukraine เที่ยวเองไม่ยากแล้ว ตอนที่ 1 “Kiev” ยักษ์หลับที่กำลังจะตื่น
Ukraine เที่ยวเองไม่ยากแล้ว ตอนที่ 2 “Odessa” ชมเมืองคลาสสิก ดูฝรั่งอาบแดดริมทะเลดำ ลอดอุโมงค์ใต้ดินยาวที่สุดในโลก
จากเมือง Odessa เราบินโดย Ukraine International Airlines (UIA) ถึงสนามบินเมือง Chernivtsi ตอนดึกและเข้าพักที่ Premium Hotel (Преміум) โรงแรมอยู่ติด Vulytsya Holovna (вулиця Головна) ถนนสายหลักเข้าศูนย์กลางเมือง
วันที่ 5 ของทริป และ วันเที่ยววันที่ 4
เราจะไปเที่ยวปราสาท Kamianets-Podilskyi ซึ่งอยู่ไกลจากเมือง Chernivtsi ประมาณ 86 กิโลเมตร แบบไปเช้าเย็นกลับ

ออกจากโรงแรม เดินไปทางขวาแล้วตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 750 เมตรก็ถึง Avtovokzal Chernivtsi (Автовокзал) ที่ถนน Vulytsya Holovna (вулиця Головна), 219 (ใน google map คือ Central Bus Station Chernivtsi)
นั่งรถเมล์สาย 1, 1A, 20, 29 ตั๋วรถเมล์ราคา 4 UAH หรือรถเมล์ trolleybus (Тролейбус) สาย 3, 3A, 11 ตั๋วราคา 3 UAH ไปสถานีรถบัสก็ได้
ไป Kam’yanets’-Podil’s’kyi (Ка́м’яне́ць-Поді́льський)
เรา search เวลารถบัสจาก http://ticket.bus.com.ua มาก่อนแล้ว มีรถบัสไป Kam’yanets’-Podil’s’kyi ตอนเช้า 08.20 น. และ 09.25 น. (เมือง Chernivtsi เลือก Chernovcy นะครับ)
หรือ search จาก http://ticket.bus.com.ua และ e-kvytok.kiev.ua ซื้อตั๋วล่วงหน้าได้เลย แต่ราคาแพงกว่า
ขอเลือกรอบ 9 โมงกว่าละกัน ไม่เช้ามาก เอากระดาษที่เขียนชื่อเมือง Ка́м’яне́ць-Поді́льський ให้ป้าคนขายตั๋วดูเลยเพราะออกเสียงไม่ถูกครับ 55
ป้าบอกค่ารถ 65 UAH (ประมาณ 80 บาท) ถูกกว่าราคาที่โชว์ในเว็บเล็กน้อย รถบัสจะออกตอน 9 โมงครึ่ง
นั่งไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง รถบัสก็ถึงสถานี Khotyn (Автовокзал “Хотин”) ถ้าอยากไปป้อมปราสาท Khotyn (Хотинська фортеця) ก็ลงตรงนี้แล้วเดินอีก 2.7 กิโล หรือหาแท็กซี่เหมาไปส่งที่ป้อมและให้รอรับกลับ แต่เราตัดสินใจไม่แวะเพราะระหว่างเมือง Khotyn กับ Kam’yanets’-Podil’s’kyi หารถบัสเชื่อมต่อได้ไม่แน่นอน รถบัสบางคันจาก Chernivtsi ก็แวะจอดที่ Khotyn บางคันก็ขับเลยไปเลย
นั่งรถบัสยาวไปลงที่ Avtovokzal (Автовокзал) หรือสถานีรถบัสเมือง Kam’yanets’-Podil’s’kyi (ออกเสียงว่า “คามเมี๋ยเนี้ยต โปโดรยสกี้) ที่ถนน Vulytsya Knyaziv Koriatovychiv (вулиця Князів Коріатовичів) ตอน 11 โมงกว่า (ตามกำหนดจะถึงตอน 11.45 น.) ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
เดินไปที่ถนนใหญ่หน้าอาคารสถานีรถบัส เลี้ยวขวาเดินไปจนถึงสี่แยกใหญ่ ข้ามถนนแล้วเลี้ยวขวาเดินไปที่ป้าย Tsentralnyi Rynok (Центральний ринок) ระยะทางราว 500 เมตร
ขึ้นรถเมล์สาย 23 ค่าตั๋วรถเมล์ 2.50 UAH หรือนั่งรถตู้ (Marshrutka) สาย 1 ก็ได้
ลงที่ Stare misto (Старе місто) หรือเมืองเก่าของ Kam’yanets’-Podil’s’kyi
เดินต่ออีกหน่อยก็เห็น Kam’yanets’-Podil’s’kya fortetsya (Кам’янець-Подільська фортеця) หรือ Kamianets-Podilskyi Castle ปราสาทเก่าแก่ในเขตเมือง Kam’yanets’-Podil’s’kyi (Ка́м’яне́ць-Поді́льський) หรือ Kamianets-Podilskyi เมืองประวัติศาสตร์ในแคว้น Podolia
หาจุดถ่ายรูปปราสาทจากมุมไกลก่อน
เดินข้ามสะพานไปยังตัวปราสาทและจ่ายค่าผ่านประตู 40 UAH ปราสาทเปิดตั้งแต่ 10.00-19.00 น. ในฤดูหนาวปิด 17.30 น.
ปราสาทยุคกลางของอาณาจักร Ruthenian-Lithuanian แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเหนือแม่น้ำ Smotrych ซึ่งเป็นชัยภูมิที่เหมาะในการสร้างป้อมปราการเพื่อใช้ป้องกันเมืองจากผู้บุกรุกที่มาทางแม่น้ำ
ปราสาท Kamianets-Podilskyi มีหอคอยทั้งหมด 12 หอ ถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของยูเครนและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอีกด้วย ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมประวัติความเป็นมาของทั้งตัวปราสาทและเมือง
เดินกลับเมืองเก่าไปหาอะไรง่ายๆ กินมื้อกลางวัน สั่งสเต็กหมูจานนึง 98 UAH
กลับสถานีรถบัส นั่งรถตู้สาย 7 (รถเมล์สาย 23 หรือรถตู้สาย 1 ก็ได้) ค่ารถ 5 UAH ก่อนรถจะเลี้ยวซ้าย ลุงคนขับก็บอกให้ลงแล้วชี้ให้เดินข้ามถนนตรงไปสถานีรถบัส
ซื้อตั๋วรถบัสกลับ Chernivtsi (Чернівці́) รอบ 15.20 น. (ในเว็บบอกว่าเป็นรอบสุดท้ายของวัน แต่จริงๆ น่าจะมีอีกรอบตอน 5 โมงกว่า) ค่ารถแพงกว่าขามาคือ 79.66 UAH
เช็คตารางเวลารถบัสได้ที่ http://ticket.bus.com.ua
ขากลับ Chernivtsi เป็นรถบัสเล็ก วิ่งช้าและจอดหลายป้ายมาก
นั่งรถ 2 ชั่วโมง 15 นาทีก็กลับถึงสถานีรถบัส Avtovokzal Chernivtsi ที่เดิม ตอน 17.35 น. เดินประมาณ 750 เมตรก็ถึง Premium Hotel
โรงแรมที่เราพักอยู่ห่างจากศูนย์กลางเมือง Chernivtsi ประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถนั่งรถเมล์สาย 1, 1A, 38, 43 ค่ารถ 4 UAH (ซื้อจากคนขับรถ) หรือรถเมล์ trolleybus สาย 3, 3A, 5, 11 ค่ารถ 3 UAH (ซื้อจากกระเป๋ารถเมล์) จากป้ายฝั่งตรงข้ามโรงแรมเข้าเมืองได้
เช็คสายรถเมล์และเส้นทางได้ที่ Chernivtsi bus routes
รถจะตรงตามถนน Vulytsya Holovna (вулиця Головна) ไปเรื่อยๆ พอผ่าน Kafedral’nyi sobor Svyatoho Dukha (Кафедральний собор Святого Духа) หรือ Cathedral of the Holy Spirit ก็ลงรถเมล์
เดินตามถนน Holovna ต่อไปราว 400 เมตรก็ถึง Tsentral’na ploshcha (Центральна площа) หรือ Tsentral’na Square จัตุรัสกลางเมือง
อาคารทางซ้ายมือคือ Ratusha (Ратуша) หรือ Town Hall
ส่วนถนนคนเดินทางขวาคือ Vulytsya Olha Kobylyans’ka (вулиця Ольги Кобилянської) หรือ Kobylyans’koi St ใน google map
เดินเล่นและหาร้านอาหารดีๆ สำหรับมื้อเย็น มีร้านอาหารโรมาเนีย ญี่ปุ่น และฟาสต์ฟู้ดง่ายๆ ให้เลือกตามใจชอบ
ค่าอาหารและเบียร์ที่นี่ถูกมากครับ สปาเก็ตตี้จานนี้ 67 UAH (เกือบ 85 บาท) ส่วน Dunkel beer แก้วครึ่งลิตร 24 UAH เอง
ขากลับโรงแรม นั่งรถเมล์ trolleybus สาย 3 (ค่ารถ 3 UAH) จากป้ายฝั่งตรงข้ามโบสถ์ Kafedral’nyi sobor Svyatoho Dukha (Cathedral of the Holy Spirit) รถผ่านโรงแรมและสี่แยกไปก็ลงแล้วเดินย้อนกลับโรงแรม
ค้างคืนที่ Chernivtsi
วันที่ 6 ของทริป
ช่วงเช้าเราจะกลับเข้าเมือง Chernivtsi ไปเที่ยวสถานที่สำคัญๆ ของเมืองและรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นก็จะนั่งรถไฟไปเมือง Lviv ตอนประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง

เหมือนเย็นเมื่อวาน นั่งรถเมล์สาย 1, 1A, 38, 43 ค่ารถ 4 UAH (ซื้อจากคนขับรถ) หรือรถเมล์ trolleybus สาย 3, 3A, 5, 11 ค่ารถ 3 UAH (ซื้อจากกระเป๋ารถเมล์) จากป้ายฝั่งตรงข้ามโรงแรมเข้าไปยังศูนย์กลางเมือง พอผ่าน Kafedral’nyi sobor Svyatoho Dukha (Кафедральний собор Святого Духа) หรือ Cathedral of the Holy Spirit ก็ลงรถเมล์
เดินตามถนน Vulytsya Holovna (вулиця Головна) ตรงไปยัง Ratusha (Ратуша) หรือ Town Hall ที่ Tsentral’na ploshcha (Центральна площа) หรือ Tsentral’na Square
ตอนนี้เรามาอยู่ที่เดียวกับเมื่อวานเย็น
จากที่ว่าการเมืองเชอร์นิฟซี เดินไปยัง Pam’yatnyk Taras Shevchenko (Monument to Taras Shevchenko) ที่อยู่ตรงข้ามกัน
เลี้ยวซ้ายเดินตามถนน Vulytsya Universytets’ka (вулиця Університетська) แป๊บเดียวก็ถึง Evreis’kyi Khram (Єврейський Храм) หรือ Czernowitz Synagogue โบสถ์ยิวหลังเก่าเป็นอาคารหลังคาโดมที่สร้างในสไตล์ Moorish Revival เมื่อปีค.ศ. 1873 ในสมัยที่ยังเป็นเมือง Czernowitz โบสถ์ถูกปิดในปีค.ศ. 1940 ในช่วงที่สหภาพโซเวียตปกครองยูเครน ปัจจุบันสถานที่นี้ได้กลายเป็นโรงละคร (Кінотеатр Чернівці) ไปแล้ว
ตรงต่อตามถนน Universytets’ka แล้วโค้งขวาตรงอีกไม่ไกล (ระยะทางราว 750 เมตร) ก็ถึงทางเข้า Chernivets’kyy natsional’nyi universytet imeni Yuriya Fedkovycha (Чернівецький національний університет імені Юрія Федьковича) หรือ Yuriy Fedkovych Chernivtsi National University เรียกสั้นๆ ว่า Chernivtsi National University
มหาวิทยาลัยเชอร์นิฟซีเปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ 10.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์เปิดถึง 18.00 น. ค่าเข้าชม 20 UAH จ่ายผ่านเครื่องขายตั๋วหน้าทางเข้า
มหาวิทยาลัยเชอร์นิฟซีก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1875 ในชื่อ Franz-Josephs-Universität Czernowitz สมัยที่ใช้ชื่อเมืองว่า Czernowitz ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ Duchy of Bukovina แห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
อาคารส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยคือ Residence of Bukovinian and Dalmatian Metropolitans คอมเพล็กซ์อาคารขนาดใหญ่ที่สร้างในระหว่างปีค.ศ. 1864-1882 โดยการออกแบบของสถาปนิกชาวเช็กนามว่า Josef Hlávka ต่อมาในปีค.ศ. 2011 ก็ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO
สิ่งก่อสร้างที่อลังการที่สุดในบริเวณมหาวิทยาลัยคือ Tr’okh-Svyatytel’s’ka Tserkva (Трьох-Святительська церква) หรือ Three-Holy Church (Seminary Church) โบสถ์ออร์โธด็อกซ์ที่สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1882
ชมอาคารอิฐสวยงามที่อยู่รอบๆ บริเวณ
เข้าอาคารหลักของมหาวิทยาลัยทะลุออกไปยังสวนร่มรื่นด้านหลัง
เสร็จแล้วเดินกลับเข้ากลางเมืองไปที่ Evreis’kyi Khram (Czernowitz Synagogue) อีกครั้ง
ถ้าขี้เกียจเดินก็นั่งรถเมล์สาย 22 หรือรถเมล์ trolleybus สาย 2, 4 ไปลงที่ป้าย Chernivtsi, Cinema (Кінотеатр “Чернівці”)
เดินไปที่หน้าโบสถ์ยิวแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนน Vulytsya Stepana Bandery (вулиця Степана Бандери) ราว 200 เมตร ทางขวามือคือ Teatral’na ploshcha (Театральна площа) หรือ Theatre Square ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Chernivets’kyy Akademichnyy Oblasnyy Ukrayins’kyy Muzychno-Dramatychnyy Teatr imeni Ol’hy Kobylyans’koyi (Чернівецький академічний обласний український музично-драматичний театр імені Ольги Кобилянської) หรือ Chernivtsi Drama Theater โรงละครประจำเมืองที่สร้างเมื่อปีค.ศ. 1905
เดินเข้าถนนทางซ้ายชื่อ Vulytsya Eminesku (вулиця Емінеску) พอสุดทางก็เลี้ยวซ้ายไปยังด้านหน้า Ratusha (Ратуша) หรือ Town Hall
เดินเข้าถนนคนเดิน Vulytsya Olha Kobylyans’ka (вулиця Ольги Кобилянської) เหมือนเมื่อวาน กินข้าวเที่ยงแถวนี้
เดินไปจนสุดถนน Olha Kobylyans’ka อีกทางหนึ่งก็กลับไปที่ด้านหลัง Kafedral’nyi sobor Svyatoho Dukha (Cathedral of the Holy Spirit) เลี้ยวซ้ายเดินอีกนิดก็ถึง Virmens’ka Tserkva (Вірменська церква) หรือ Armenian Church (Армянская церковь) ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงแสดงคอนเสิร์ต
เดินกลับไปยังด้านหน้า Kafedral’nyi sobor Svyatoho Dukha (Cathedral of the Holy Spirit) ข้ามถนน Vulytsya Holovna (вулиця Головна) ไปขึ้นรถเมล์สาย 1, 1A, 43 หรือรถเมล์ trolleybus สาย 3, 3A, 5, 11 ตั๋วรถเมล์ราคา 4 / 3 UAH กลับโรงแรมไปเอากระเป๋าเดินทางที่ฝากไว้
เกือบบ่าย 3 ให้โรงแรมโทรเรียกแท็กซี่มารับไปส่งที่สถานีรถไฟ (จริงๆ นั่งรถเมล์สาย 1, 1A, 38, 43 หรือรถเมล์ trolleybus สาย 3, 3A, 5, 11 ค่ารถ 4 / 3 UAH จากป้ายฝั่งตรงข้ามโรงแรม ไปลงที่ป้าย Zaliznychnyi vokzal (Залізничний вокзал) หน้าสถานีรถไฟก็ได้ แต่รถค่อนข้างติดและรถเมล์จอดป้ายบ่อย ต้องใช้เวลานานกว่าจะถึง)
นั่งแท็กซี่ 20 นาที (ประมาณ 4 กิโลเมตร) ค่ารถ 52 UAH ลงที่หน้า Chernivets’kyy vokzal หรือสถานีรถไฟ Chernivtsi (Чернівці́)
ไป Lviv (Львів)
เราซื้อตั๋วรถไฟ Chernivtsi-Lviv ล่วงหน้าทางเว็บไซต์ไว้แล้ว ตั๋วรถไฟชั้น 2 ราคา 134.13 UAH เพิ่มเครื่องดื่มด้วยเป็น 158.13 UAH หรือ 206 บาท (ถ้าชั้น 3 ราคาจะถูกกว่าคือ 91.84 UAH)
เช็คตารางเวลาและซื้อตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ที่ Ukraine train
พอถึงสถานีรถไฟก็เอาใบจองตั๋วที่ปรินท์มาไปออกตั๋วที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว หน้าตาตั๋วมีแต่ภาษายูเครนอ่านไม่รู้เรื่องแบบนี้ แต่ป้ายบอกเวลาและชานชาลาในสถานีรถไฟมีภาษาอังกฤษครับ
พอรถไฟมาจอดที่ชานชาลาก็เอาตั๋วให้เจ้าหน้าที่ดูเพราะตอนซื้อตั๋วในเว็บมันมีแต่ตู้นอนซึ่ง fix โบกี้และที่นั่ง ถ้าขึ้นผิดโบกี้จะเคลื่อนย้ายลำบาก
สภาพตู้นอนเป็นแบบนี้ครับ
ถ้าจะนั่งรถบัสก็ได้เหมือนกัน แต่ใช้เวลานานกว่ารถไฟ ตั๋วแพงกว่าด้วย
เช็คตารางเวลาและซื้อตั๋วรถบัสออนไลน์ได้ที่ https://bus.tickets.ua หรือ http://ticket.bus.com.ua search ชื่อเมืองตามรูปเลยครับ
ตรงเวลา 15.37 น. รถไฟขบวน 136Л ออกเดินทาง นั่งๆ นอนๆ ยาวไปประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง ในที่สุดก็มาถึงเมืองสุดท้ายของ Ukraine Trip ที่สถานีรถไฟกลาง Lviv-Holovnyi (Льві́в-Головни́й) ในเวลา 21.10 น.
นั่งแท็กซี่ไปเช็คอินที่ Premier Hotel Dnister ตอนแรกทุกคันเรียกราคาเดียวกันคือ 150 UAH จนมีคนยอมตกลงที่ 100 UAH ต้องต่อราคาแท็กซี่ 30-40% จากราคาที่เรียกมานะครับ
โรงแรมใหญ่โต ห้องพักดีมาก แต่ราคาก็ไม่ถูกคือ 2 คืน 4,126 UAH (ประมาณ 5,200 บาท) รวมอาหารเช้า
โรงแรมนี้เดินทางเข้าและไปสนามบินได้สะดวก มีรถเมล์ trolleybus สาย 9 จอดใกล้โรงแรม แต่มาจากสถานีรถไฟไม่สะดวก ควรนั่งแท็กซี่ ถ้าจะไปสถานีรถไฟต้องขึ้นรถเมล์ trolleybus สาย 9 ไปลงป้ายที่ถนน Vulytsya Stepana Bandery (вулиця Степана Бандери) แล้วเดินราว 200 เมตรไปต่อรถรางสาย 1, 9
จากสถานีรถไฟเข้าศูนย์กลางเมืองมีรถรางสาย 1 ไปลงที่ Plosha Rynok (Площа Ринок) หรือ Rynok Square ใน Stare Misto L’vova (Старе Місто Львова) หรือเมืองเก่าลวีฟ และสาย 6 ซึ่งแล่นตามถนนสายหลักชื่อ Vulytsya Horodotska (вулиця Городоцька) ไปยัง Lviv Opera (Львівська опера) ตั๋วรถรางราคา 5 UAH ซื้อจาก kiosk ชื่อ Interpress และ Vysoky Zamok หรือซื้อจากคนขับก็ได้
ส่วนจากสนามบินเข้าศูนย์กลางเมืองมีรถเมล์ trolleybus สาย 9 รถจะไปสุดทางที่ Universytet (Університет) หรือ Ivan Franko National University of Lviv ตั๋วรถเมล์ trolleybus ราคา 5 UAH ซื้อจาก kiosk ที่ป้ายรถเมล์
อ่านข้อมูลรถสาธารณะและดูแผนที่เส้นทางรถประเภทต่างๆ ได้ที่ Lviv transportation
เช็คเส้นทางรถสาธารณะของ Lviv ได้ที่ Lviv bus and tram routes
จุดนี้หิวสุดๆ ลงมาที่ Dnister Terrace ของโรงแรม สั่งสเต็กไก่มากิน ขนาดร้านอาหารในโรงแรมยังราคาแค่ 120 UAH เอง ถือว่าไม่แพงเลยนะ
วันที่ 7 ของทริป
วันนี้เรามีเวลาเที่ยวชมเมือง Lviv ทั้งวัน
Lviv (Львів) ออกเสียงตามภาษายูเครนว่าลวีฟ คือเมืองใหญ่ที่สุดของยูเครนตะวันตก ใกล้ชายแดนประเทศโปแลนด์ ที่ตั้งของเมืองอยู่ในชัยภูมิสำคัญในเส้นทางการค้าแถบเทือกเขา Carpathian ในศตวรรษที่ 13 เป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญระหว่างยุโรปตะวันตกกับรัสเซียและตุรกี
ออกจากโรงแรม เดินไปทางซ้ายแล้วเลี้ยวซ้ายเดินตาม Vulytsya Lystopadovoho Chynu (вулиця Листопадового Чину) ถนนสายหลักจากเมืองเก่าออกนอกเมืองสำหรับรถยนต์
เลี้ยวขวาไปก็เห็นอนุสาวรีย์ของ Andrey Sheptytsky อยู่ที่ลานหน้า Sobor sviatoho Yura (Собор святого Юра) หรือ St. George’s Cathedral โบสถ์สถาปัตยกรรมแบบบาโรคโรโคโคอันงดงามตั้งอยู่ที่เชิงเนิน St. George หรือ sviatoyurs’ka hora (Святоюрська гора) ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1744-1760
ออกจากโบสถ์ เลี้ยวขวาเดินลัดถนนแคบๆ ไปที่ถนนสายหลักทางเข้าไปยังศูนย์กลางเมืองชื่อ Vulytsya Horodotska (вулиця Городоцька) เลี้ยวขวาเดินผ่านสนามเด็กเล่นและโรงละครสัตว์ (цирк) ไปที่ป้ายรถเมล์หน้า Hotel Cisar (ระยะทางประมาณ 850 เมตร) ขึ้นรถรางสาย 6, 7 ตั๋วรถรางราคา 5 UAH พอรถผ่านด้านหลัง Lviv Opera (Львівська опера) ก็ลง (จะนั่งรถเมล์เล็ก (marshrutka) สาย 34, 51 จากป้ายใกล้โรงละครสัตว์ แล้วลงก่อนถึงด้านหลังโรงโอเปร่านิดหน่อยก็ได้ ค่ารถ 5 UAH เท่ากัน)
เข้าสู่ Stare Misto L’vova (Старе Місто Львова) หรือเมืองเก่าลวีฟได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปีค.ศ. 1998
Lviv Opera คือหมายเลข 11 ในแผนที่

เดินไปที่ลานน้ำพุด้านหน้า Lvivs’kyi Natsional’nyi akademichnyi teatr opery ta Baletu imeni Solomiya Krushel’nyts’koi (Львівський Національний академічний театр опери та балету імені Соломії Крушельницької) หรือ Solomiya Krushelnytska Lviv State Academic Theatre of Opera and Ballet เรียกสั้นๆ ว่า Lviv Opera (Львівська опера) โรงโอเปร่าและบัลเล่ต์แห่งลวีฟตั้งอยู่ที่ Prospekt Svobody (Проспект Свободи) หรือ Freedom Avenue
โรงละครแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวโปแลนด์นามว่า Zygmunt Gorgolewski ใช้เวลาก่อสร้างนาน 3 ปี ตั้งแต่ปีค.ศ. 1897-1900 ด้วยเงินทุนจากชาวเมืองและชุมชนใกล้เคียง รวมถึงการบริจาคโดยสมัครใจ รวม 6 ล้าน Austro-Hungarian krone
เดินตรงไปจนถึงรูปปั้นของ Taras Shevchenko (หมายเลข 9 ในแผนที่) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Vulytsya Beryndy (вулиця Беринди) ไปทางยอดโบสถ์
เดินตามทางรถรางไปยัง Plosha Katedralna (площа Катедральна) จัตุรัสที่ตั้งของ Latyns’kyi kafedral’nyi sobor (Латинський кафедральний собор) หรือ Archcathedral Basilica of the Assumption of the Blessed Virgin Mary เรียกสั้นๆ ว่า Latin Cathedral มหาวิหารคริสต์โรมันคาทอลิกที่เริ่มแรกเป็นโบสถ์เล็กๆ สร้างด้วยไม้เมื่อปีค.ศ. 1344 และถูกไฟไหม้ในปีค.ศ. 1360 ต่อมาพระเจ้า Kazimierz III Wielki (Casimir III the Great) แห่งโปแลนด์ได้บูรณะโบสถ์ขึ้นอีกครั้งในสไตล์โกธิคโดยใช้เวลานานเกือบ 80 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ. 1481
ในปีค.ศ. 1761 วิหารได้รับการตกแต่งใหม่ในสไตล์บาโรคและสร้างหอระฆังสูงเพิ่มในปีค.ศ. 1776
ตรงผ่านหน้าโบสถ์ไปไม่กี่ก้าวก็ถึง Plosha Rynok (Площа Ринок) หรือ Rynok Square (Market Square) จัตุรัสกลางเมืองลวีฟเป็นศูนย์กลางของวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของเมือง
ในอดีตจัตุรัส Rynok เคยเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศ เช่น เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 1941 Yaroslav Stetsko ประกาศอิสรภาพยูเครนในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ที่จัตุรัสแห่งนี้
รอบๆ จัตุรัสมีอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชาวเวียนนาในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่สมัยเรอเนสซองส์จนถึงโมเดิร์นนิสม์ ตรงกลางจัตุรัสเป็นที่ตั้งของ Lvivs’ka ratusha (Львівська ратуша) หรือที่ว่าการเมืองลวีฟ ที่มุมทั้ง 4 ทิศมีน้ำพุ Neptune, Diana, Adonis และ Amphitrite คล้ายจัตุรัสกลางเมืองของหลายเมืองในโปแลนด์
เดินตรงผ่านหน้าที่ว่าการเมืองอีกไม่ไกลไปยัง Uspenska tserkva (Успенська церква) หรือ Dormition Church (Assumption Church) โบสถ์อุสเปนสกีคือศูนย์กลางของชาวคริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ในลวีฟ (ใน google map ใช้ชื่อว่า Assumption of the Blessed Virgin Mary หรือ Успення пресвятої богородиці)
โบสถ์แห่งนี้โดดเด่นที่ vezha Korniakta (вежа Корнякта) หรือ Korniakt Tower สูง 65 เมตร
หันหน้าเข้าหาโบสถ์ มองไปทางขวาก็เห็นยอดโดมของ Dominikanskyi kostel i monastyr (Домініканський костел і монастир) หรือ Dominican church and monastery โบสถ์เก่าแก่ประจำเมืองที่อายุกว่า 600 ปี
เดินผ่าน Muzeina ploshcha (Muzeina Square) อ้อมไปยังด้านหน้าโบสถ์
ถ้าตรงเข้าถนน Vulytsya Stavropihiis’ka (вулиця Ставропігійська) ก็จะวนกลับไปที่จัตุรัสกลางเมือง Plosha Rynok (Rynok Square)
แถวนี้มีร้านอาหารจอร์เจียอยู่ เห็น Khinkali แล้วอยากกิน จัดซะเลย ลูกละ 10.9 UAH (ประมาณ 13 บาท)
เดินกลับไปที่โบสถ์อุสเปนสกี ตรงเลยไปหน่อยก็เห็น Lvivskyi Miskiy arsenal (Львівський міський арсенал) หรือ Museum-Arsenal (Музей-Арсенал)
เดินไปทางด้านหลังพิพิธภัณฑ์ก็ถึง Zolota troyanda (Золота троянда) หรือ Nachmanowicz Synagogue (Golden Rose Synagogue) โบสถ์กุหลาบทองคำของชาวยิวที่มีชื่อเสียงไปทั่วยุโรปในศตวรรษที่ 14 เป็นสถานที่เกิดโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงของชาวยิวกว่า 420,000 คนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เดินตามถนน Vulytsya Staroevreis’ka (вулиця Староєврейська) กลับไปทาง Latyns’kyi kafedral’nyi sobor (Latin Cathedral) จนสุดทาง เดินไปทางอนุสาวรีย์ Adam Mickiewicz (Пам’ятник Адамові Міцкевичу) ซ้ายมือ
เดินผ่านวงเวียนที่มีรูปปั้นของ Virgin Mary (Статуя Діви Марії) อยู่ตรงกลาง ตรงเข้าถนน Vulytsya Mykoly Kopernyka (вулиця Миколи Коперника) ไม่ไกลก็ถึง Palats Pototskykh (палац Потоцьких) หรือ Potocki Palace วังแห่งนี้สร้างขึ้นในทศวรรษที่ 1880 เพื่อใช้เป็นที่ทำงานของ Alfred Józef Potocki อดีตผู้ปกครองออสเตรีย จากนั้นในปีค.ศ. 1940 ได้ตกเป็นทรัพย์สินของสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครน (Ukrainian Soviet Socialist Republic) และในทศวรรษที่ 2000 ได้กลายเป็นบ้านพักของประธานาธิบดีแห่งยูเครน
จากตรงนี้ ถ้าเดินต่อไปที่สี่แยกแล้วเลี้ยวขวาตรงไปจนถึงสวน Ivan Franko (Парк ім. Івана Франка) เลี้ยวซ้ายเดินเลียบริมสวนและเลี้ยวขวาก็จะกลับถึงโรงแรม (ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร)
แต่ตอนนี้เพิ่ง 4 โมงเย็น ขนาดออกสายและเดินเที่ยวแบบช้าๆ แล้วนะเนี่ย ขอกลับไปนั่งจิบกาแฟหลบร้อนแถวโบสถ์กุหลาบทองคำรอแดดร่มลมตกหน่อยค่อยเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิว
เย็นๆ เดินผ่าน Museum-Arsenal และโบสถ์อุสเปนสกี กลับไปที่ Muzeina ploshcha (Muzeina Square)
ข้ามถนนขึ้นบันไดเข้าไปในสวน เลี้ยวซ้ายเดินตรงยาวขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาทีก็เข้าสู่เขต Vysokyi zamok (Високий замок) หรือ High Castle
เดินตามป้ายบอกทางไป Upper Observation Deck ผ่านสวนอันร่มรื่น ขึ้นบันไดเหล็กสูงและเดินตามทางไปยังจุดสูงสุดที่ความสูง 413 เมตร
ชมวิวและถ่ายรูปเมืองเก่าลวีฟจากจุดนี้
เดินลงเขากลับไปที่ป้ายบอกทางที่เจอตอนแรก เลี้ยวซ้ายเดินผ่านร้านอาหารลงไปยังอีกจุดชมวิว แต่จุดนี้อยู่ต่ำกว่าและมีต้นไม้บังวิวเล็กน้อย
เดินกลับทางเดิมลงไปยัง Muzeina ploshcha (Muzeina Square) และจัตุรัสกลางเมืองเก่า Plosha Rynok (Rynok Square)
หาร้านอาหารนั่งกินแถว Lviv Opera รอให้พระอาทิตย์ใกล้ตกเพื่อถ่ายรูปอีกฟีลหนึ่งของโรงโอเปร่าอันงดงามแห่งนี้
เรียกแท็กซี่กลับโรงแรม ต่อราคาได้ 100 UAH (จากโอเปร่าไม่มีรถเมล์หรือรถรางกลับ ถ้าเดินต้องเดินไกล 1.3 กิโล)
วันสุดท้ายของทริป
เนื่องจากเมื่อวานไม่มีไฟลท์จาก Kiev กลับกรุงเทพฯ เราจึงต้องค้างที่ Lviv อีกคืนแล้วมากลับตอนเย็นวันนี้ แต่ก็ดีครับ จะได้ไม่ต้องรีบเที่ยวเพื่อกลับมาขึ้นรถไปสนามบิน
วันนี้เลยว่างเพราะเมื่อวานเดินเที่ยวจนหมดแล้ว 55 กินข้าวเที่ยงที่ Hotel Cisar และแลกเงินคืน อัตราแลกเปลี่ยนคือ 31.40 UAH = 1 EUR
ตอนมาถึง Kiev เอาเงิน 170 ยูโรแลกเป็นเงินยูเครน ตอนจะกลับแลกเงินยูเครนคืนได้เงินกลับบ้าน 43 ยูโรเลย
บ่าย 2 โมงครึ่ง ออกจากโรงแรม เดินไป Sobor sviatoho Yura (St. George’s Cathedral) เหมือนเมื่อวาน
แต่คราวนี้เลี้ยวซ้ายและข้ามถนนไปที่ป้ายรถเมล์ รอรถเมล์ trolleybus สาย 9 ที่เขียนว่า Аеропорт ไป Mizhnarodnyy aeroport Lviv imeni Danyla Halyts’koho (Міжнародний аеропорт “Львів” імені Данила Галицького) หรือ Lviv Danylo Halytskyi International Airport ค่าตั๋วรถเมล์ 5 UAH ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เช็คเส้นทางได้ที่ Lviv trolleybus 9 route
เช็คข้อมูลรถเมล์เพิ่มเติมได้ที่ http://lwo.aero
บินไป Kiev และกลับกรุงเทพฯ
ก่อนจะไปสนามบินควรทำ Online Check-in มาให้เรียบร้อยก่อนนะครับ โดยทำได้ตั้งแต่ 48 ชั่วโมง จนถึง 2 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง ปรินท์หลักฐานหรือดาวน์โหลดไฟล์ไว้ในโทรศัพท์มือถือเพื่อโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดู ถ้ามาเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินจะมีค่าบริการ 15 ยูโรต่อเที่ยวบิน
เช็คอินออนไลน์ล่วงหน้าได้ที่ UIA Online Check-in
ไฟลท์ PS036 ของสายการบิน Ukraine International Airlines (UIA) ออกจากสนามบิน Lviv ในเวลา 17.05 น. บิน 1 ชั่วโมง 10 นาที ถึง Mizhnarodnyy aeroport Boryspil’ (Міжнародний аеропорт “Бориспіль”) หรือ Boryspil International Airport ตั๋วเครื่องบิน Lviv-Kiev ราคา 67.76 USD
รอเปลี่ยนไฟลท์ 1 ชั่วโมง 55 นาที
20.10 น. Ukraine International Airlines (UIA) ไฟลท์ PS271 ออกเดินทางกลับกทม.
ขากลับเป็น Premium Economy Class ครับ เบาะกว้างนั่งสบาย เอนหลังได้เยอะ เสิร์ฟอาหารพิเศษกว่าอีโค สั่งไวน์มาดื่มได้ด้วย คืนนี้หลับสบายแน่นอนคร้าบ 😀
09.35 น. เวลาประเทศไทย เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ ใช้เวลาเดินทาง 9 ชั่วโมง 25 นาที เวลาสวยมากๆ ครับ
เช็คตารางเวลาบินและซื้อตั๋วเครื่องบินได้ที่ www.flyuia.com
*ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงข้อมูลและรูปภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต