เมื่อความสวยงามมาพร้อมความหนาวเหน็บ เราจึงต้องมาเยือนทะเลสาบไบคาลสักครั้ง
ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ดินแดนแถบไซบีเรีย ทางตะวันออกของรัสเซีย จะมีอุณหภูมิติดลบหนักมาก อาจหนาวโหดถึง -40°C หนาวจนแทบจะอาศัยอยู่กันไม่ได้เลยทีเดียว แต่ความหนาวเหน็บนี้กลับกลายเป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไกลมาชมผลงานที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ นั่นคือ “แผ่นดินน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ทั่วทะเลสาบไบคาล”

เกริ่นขึ้นมาฟังแล้วเหมือนจะไปยาก 55 แต่จริงๆ วิธีการเดินทางไปนั้นง่ายนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็น ซื้อทัวร์เหมามาเลยจากเมืองไทยซึ่งมีราคาต่างกันตามจำนวนวันและความพิเศษของทัวร์ หรือ บินตรงจากกรุงเทพฯ โดยสายการบิน S7 / Ural Airlines มาลงที่เมือง Irkutsk แล้วซื้อทัวร์ท้องถิ่นพาเที่ยว โดยทั่วไปแล้วทัวร์ต่างๆ จะใช้เส้นทางมาตรฐานประมาณนี้

แต่ขึ้นชื่อว่า “เที่ยวเอง” แล้วจะใช้ท่าธรรมดาคงไม่ได้ เราจึงจัดแผนเที่ยวทะเลสาบ Baikal โดยนั่งรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย เกือบ 3 วันจากเมืองสุดทางคือ Vladivostok ไปยังเมือง Irkutsk แล้วใช้บริการทัวร์ท้องถิ่นไปเกาะ Olkhon ในทะเลสาบ
แอบบอกว่างบทั้งทริป 40,000 หมื่นบาท ได้เที่ยวเยอะกว่าและจ่ายถูกกว่าซื้อทัวร์จากไทยที่มาเที่ยวแค่ทะเลสาบไบคาล 1-2 หมื่นบาท เลยแหละ
อ่านรีวิวตอนนั่งรถไฟทรานส์-ไซบีเรียจาก Vladivostok ได้ตามนี้เลย
นั่งรถไฟทรานส์-ไซบีเรีย เที่ยวเอง “SIBERIA” จากสถานีสุดทาง Vladivostok ถึง Irkutsk เมืองเริ่มต้นสู่ทะเลสาบไบคาล
เข้าเรื่องเลย
Ozero Baykal (Озеро Байкал) หรือ Lake Baikal คือทะเลสาบทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่และลึกที่สุดในโลก มีเนื้อที่ถึง 31,722 ตารางกิโลเมตร โดยยาวถึง 636 กม. และกว้าง 79 กม. ความลึกสูงสุดถึง 1.642 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ทะเลสาบไบคาลเกิดจากการที่น้ำเอ่อล้นจนเต็มรอยเปลือกโลกที่แตกเมื่อราว 25-30 ล้านปีก่อน จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นทะเลสาบที่เก่าแก่ที่สุดของโลก องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี.ศ. 1996
ตลอดความยาวรอบทะเลสาบมีเมืองและหมู่บ้านเล็กๆ มากมาย แต่ส่วนมากคนจะไปเที่ยวกันแค่ไม่กี่แห่ง เช่น
Listvyanka (Листвянка) เมืองหลักริมทะเลสาบซึ่งอยู่ห่างจาก Irkutsk ประมาณ 70 กม. เป็นจุดที่แม่น้ำ Angara ไหลลงสู่ทะเลสาบไบคาล
จากเมือง Irkutsk สามารถนั่งรถตู้ (marshrutka) จากท่ารถใกล้ Tsentral’nyy Rynok (Центральный рынок) หรือตลาดกลาง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่ารถเที่ยวละ 120 RUB
Ostrov Ol’khon (Остров Ольхо́н) หรือ Olkhon Island คือเกาะขนาดใหญ่ที่สุดของทะเลสาบ มีศูนย์กลางคือ Khuzhir (Хужир) ชุมชนขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะอยู่ห่างจาก Irkutsk ประมาณ 290 กม.

วันนี้ เรามีสมาชิกที่เพิ่งเดินทางจากไทยมาเจอกันที่ Irkutsk เพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 5 คน
เราติดต่อซื้อทัวร์แบบ 3 วัน “3-day tour (Ice Wonder of Olkhon Island)” ของ Baikal Glory Tours ไว้ล่วงหน้าเกิน 2 เดือน เพราะช่วงเดือนก.พ. เป็นช่วงไฮซีซั่นที่สุด ค่าทัวร์สำหรับ 5 คน ตกคนละ 14,000 RUB (ประมาณ 7,000 บาท) จ่ายมัดจำก่อนคนละ 1,400 RUB ที่เหลือไปจ่ายในวันออกทัวร์ด้วยเงินสดอีก 12,600 RUB ราคานี้รวมค่าอาหารกลางวันวันที่ 2 มื้อเดียว อาหารกลางวันวันแรกและวันสุดท้ายจ่ายเองอีกมื้อละ 150-250 RUB เราตกลงเลือกที่พักเองแบบรวมอาหารเช้าและเย็นเองเพราะรวมแล้วราคาถูกกว่าให้ทัวร์เหมาครับ
ราคานี้คือราคาสำหรับ 5 คน ถ้าคนน้อยลง ราคาต่อหัวก็จะสูงขึ้นครับ
อ่านรายละเอียดทัวร์และติดต่อได้ที่ www.baikalglory.com
ทัวร์ท้องถิ่นมีให้เลือกเป็นสิบเจ้าและมีทัวร์ตั้งแต่ 2-7 วัน สามารถแพลนได้ตามวันว่างและงบประมาณ ค่าทัวร์มีตั้งแต่ 6 พันบาท – หมื่นต้นๆ แต่จริงๆ เที่ยวแค่ 3 วันก็ได้ไฮไลต์ที่โอเคแล้ว
ถ้าไม่ซื้อทัวร์จากไทยหรือทัวร์ท้องถิ่นจาก Irkutsk ไปก็สามารถเดินทางไปเกาะ Olkhon เองได้ แต่ไม่แน่ใจว่ามีบริษัททัวร์บนเกาะพาเที่ยวจุดต่างๆ บนเกาะหรือไม่ เท่าที่หาดูไม่พบข้อมูลนะครับ และไม่ควรขับรถเที่ยวเองเพราะพื้นที่บางช่วงอาจอันตรายหากไม่ชำนาญเส้นทาง
อ่านวิธีการเดินทางไปได้ที่ Olkhon info
ไฮไลต์ของที่นี่คือในฤดูหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งที่หนาและแข็งแรงเพียงพอให้รถยนต์แล่นในทะเลสาบได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องมาในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. แต่ช่วงที่ดีที่สุดคือเดือนก.พ. เพราะอากาศไม่หนาวเท่าเดือนม.ค. อุณหภูมิ -15°C โดยประมาณ ถ้าเลยไปถึงเดือนมี.ค. น้ำแข็งจะเริ่มไม่ใสและมีร่องรอยของนักท่องเที่ยวมากแล้ว ถ้าผ่านกลางเดือนมีนาคมไปจะเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วเพราะน้ำแข็งอาจละลายจนบางลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะโลกร้อนด้วย
หนาวขนาดนี้ต้องแต่งตัวยังไง อ่านวิธีการนี้ได้เลย แต่งตัวรับมืออุณหภูมิติดลบหนักมากที่ “ไซบีเรีย” อย่างไรถึงเอาอยู่
9 โมงครึ่ง ไกด์มารับที่โรงแรม ตามโปรแกรมคือไกด์จะพาเดินเที่ยวในเมือง Irkutsk ก่อนแล้วค่อยพาไปทะเลสาบไบคาล แต่เมื่อเย็นวานเราเดินเที่ยวเองกันเรียบร้อยแล้ว เลยบอกไกด์ว่าให้พาไป 2 โบสถ์ที่อยู่นอกศูนย์กลางเมือง Irkutsk นิดหน่อยแทนตามที่เขียนบอกในรีวิวตอนแรก
หลังแวะชมโบสถ์ทั้งสองเสร็จ เราก็มุ่งหน้าไปยัง Ostrov Ol’khon (Остров Ольхо́н) เกาะ Olkhon ในทะเลสาบไบคาล

พักกินข้าวกลางวันกลางทางที่ร้าน Café Nika (Ника) ในเขตเมือง Bayanday (Баяндай)

ร้านนี้มีเมนูภาษาอังกฤษ รูดบัตรเครดิตได้ และมีทัวร์ไทยลงด้วย มื้อนี้ต่างคนต่างจ่าย ราคาทัวร์ไม่รวมอาหารกลางวันวันนี้ครับ

จากตรงนี้เหลือระยะทางอีกราว 160 กม. ก็จะถึงหมู่บ้าน Khuzhir
นั่งรถไปจนถึง Sakhyurta (Сахюрта) หมู่บ้านสุดท้ายก่อนข้ามไปยังเกาะ Olkhon
ในฤดูหนาวแบบนี้ น้ำแข็งในทะเลสาบไบคาลกลายเป็นน้ำแข็งหมด สามารถขับรถขึ้นไปยังเกาะได้เลย แต่ถ้ามาในหน้าร้อนก็ต้องนั่งเรือข้าม
ระหว่างทางบนทะเลสาบ แวะถ่ายรูป Ice Road ที่ค่อนข้างใสเคลียร์


พอขึ้นไปบนเกาะ เส้นทางก็เปลี่ยนจากถนนลาดยางเป็นทางธรรมชาติ ถ้าพื้นไม่เปียกหิมะคงฝุ่นตลบไปละ
4 โมงเย็น ถึงหมู่บ้าน Khuzhir (Хужир) หรือ Khujir
เข้าไปเก็บของที่ Usadba Valentinu บ้านห้องพักเล็กๆ หลายหลัง มีห้องอาบน้ำอุ่นแบบไซบีเรียแต่ต้องแจ้งล่วงหน้าและจ่ายเงินเพิ่ม ถ้าจะทำธุระหนักเบาต้องใช้ห้องส้วมหลุมเอาท์ดอร์ ลำบากนิดนึงแต่ไม่สกปรกนะ ที่พักส่วนมากเป็นแบบนี้ครับ ราคาถูกสมกับสภาพคือ 2 คืน 3,600 RUB เพิ่มอาหารเช้า 1,000 RUB และเย็น 1,400 RUB รวมเป็น 6,000 RUB จ่ายเป็นเงินสดกันคนละ 1,500 บาท

ก่อนพระอาทิตย์ตก ไกด์พาเดินไป Shamanskaya Skala (Шаманская Скала) หรือ Shaman Rock ที่ Mys Burkhan (Мыс Бурхан) หรือแหลมบรูคาน (Cape Burkhan) โขดหินชามานคือสถานที่ประกอบพิธีกรรมของหมอผีสื่อวิญญาณตามความเชื่อของชาวไบคาลก่อนการเผยแผ่พุทธศาสนาจากทิเบตมายังบริเวณนี้ จุดนี้ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญหนึ่งของทะเลสาบไบคาล


ไม่ว่าจะต้องเดินทางไกลขนาดไหน ต้องเผชิญกับอุณหภูมิติดลบมากมายและสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอด เราก็ไม่กังวลเพราะทริปนี้เรามีประกันเดินทางของ AXA ซึ่งตอบโจทย์ด้วยความคุ้มครองที่ปกป้องทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และความช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ ติดตัวมาด้วย
Know You Can แอกซ่า เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันทุกช่วงชีวิต

เดินกลับที่พัก แวะซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ซื้อของกินตุนไว้ และรับประทานอาหารเย็นที่ที่พัก
ค้างคืนแรกที่ Khuzhir
วันที่ 2 บนเกาะ Olkhon
ไกด์นัดเจอตอน 10 โมง ทัวร์วันนี้จะไปทางเหนือของเกาะจนสุดที่ Mys Khoboy (Cape Khoboy)
แต่งตัวให้พร้อมปะทะอากาศติดลบเกือบ 20 องศาทั้งวัน

ออกลุยทะเลสาบน้ำแข็งกันเลย
พาหนะที่ใช้สำหรับเที่ยวทะเลสาบน้ำแข็งคือรถ UAZ Russian van

คนขับแวะให้ลงไปถ่ายรูปน้ำแข็งงอกน้ำแข็งย้อยซึ่งเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติสวยๆ ตามเกาะเล็กๆ เกาะน้อยในทะเลสาบ เช่น Ostrov Kharantsy (Остров Харанцы)

ขับรถหาถ้ำน้ำแข็งสวยๆ ถ่ายรูป

พักกินอาหารกลางวัน เป็นซุปปลา ขนมปัง และขนมหวานท้องถิ่น กับชาอุ่นๆ
ขับรถบนผืนน้ำแข็งของทะเลสาบไปยัง Mys Khoboy (Мыс Хобой) หรือ Cape Khoboy แหลมโคบอยอยู่ทางเหนือสุดของเกาะโอลคอน และหาทุ่งน้ำแข็งกว้างๆ ถ่ายรูป


กลับ Khuzhir
คนขับพาไป Shaman Rock ก่อนกลับไปส่งที่ที่พัก

บ่าย 3 นิดๆ จบทัวร์
ตอนเย็น เดินกลับไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกที่ Shaman Rock อีกครั้ง

ค้างคืนที่ Khuzhir อีกคืน
วันที่ 3 บนเกาะ Olkhon
วันนี้เป็นทัวร์วันสุดท้าย
ระหว่างทางกลับ Irkutsk ทัวร์จะแวะตามจุดต่างๆ ทางใต้ของเกาะโอลคอนที่อยู่ในเส้นทางรถ ตอนแรกเราเข้าใจว่าจะแวะเกาะ Ogoy ด้วย แต่ไกด์บอกว่าไม่ได้แวะเพราะอยู่นอกเส้นทาง เราจึงขอให้จัดให้หน่อยโดยต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 3,000 RUB แชร์กันคนละ 600 RUB
Ostrov Ogoy (Остров Огой) หรือเกาะโอกอยเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเกาะโอลคอน บนจุดสูงสุดของเกาะเป็นที่ตั้งของ Stupa Prosvetleniya (Ступа Просветления) หรือ Buddhist Stupa ซึ่งต้องเดินขึ้นเขาประมาณ 15 นาที


เดินลงเขาและนั่งรถอีกนิดก็ถึงจุดถ่ายรูปไฮไลต์ของที่นี่ จุดนี้เรียกว่า Mys Drakon (Мыс Дракон) หรือ Cape Dragon

แวะกินข้าวที่ร้าน Yurta (Юрта) ริมถนน ใกล้หมู่บ้าน Yelantsy (Еланцы) แล้วตีรวดกลับ Irkutsk
5 โมงเย็น ถึงที่พักที่เอียร์คุตสก์
ค้างที่ Irkutsk อีกคืน
เช้าวันสุดท้าย
บินกลับกรุงเทพฯ
สายการบิน S7 Airlines เที่ยวบิน S7 6331 กำหนดออกจาก Mezhdunarodnyi aeroport Irkutsk (Международный Аэропорт Иркутск) หรือสนามบิน Irkutsk เวลา 10.10 น.

วิธีการเดินทางไปสนามบินที่ขอแนะนำ คือ แท็กซี่ ค่ารถไม่แพงแค่ 200-300 RUB (ไม่เกิน 150 บาท) ควรเรียกผ่านแอปฯ Yandex Taxi หรือให้ทางที่พักเรียกให้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
อีกวิธีที่ไม่ค่อยสะดวกสำหรับคนที่มีกระเป๋าเดินทางใหญ่ คือ รถเมล์ trolleybus สาย 4, 6 / รถตู้สาย 20, 480 / รถเมล์สาย 80 ค่าตั๋วราคา 15-20 RUB ใช้เวลาราว 30 นาที
เช็คเส้นทางได้ที่ Irkutsk bus, minibus, trolleybus routes,
Irkutsk Public Transport, Irkutsk trolleybus routes
ไปถึงสนามบินก่อนเวลาเครื่องออกชั่วโมงนึงก็พอครับ เพราะอาคารเล็กมาก มีประตูเข้าไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์แคบๆ คนต้องยืนออต่อคิวยาวอยู่หน้าประตูกันทั้งไฟลท์ ใส่เสื้อกันหนาวไว้ก่อนนะครับเพราะต้องไปขึ้นเครื่องข้างนอก กว่าจะทยอยกันขึ้นก็ต้องยืนทนหนาวพักหนึ่งเลย

15.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 20 นาที
*ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงข้อมูลและรูปภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต