เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์

ในช่วงหลายปีหลัง กระแสการ “เที่ยวเอง” ในต่างประเทศถือว่ามาแรงสุดๆ เพราะนอกจากราคาตั๋วเครื่องบินจะถูกลงกว่าแต่ก่อนมากแล้ว ข้อมูลต่างๆ ยังสามารถค้นหาได้ง่ายขึ้นเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ยิ่งถ้าเป็นจุดหมายปลายทางหลักๆ ด้านการท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของคนหมู่มากแล้ว ยิ่งหาข้อมูลได้ง่ายตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ใช่ประเทศสายแมสที่คนไทยชอบไปตามๆ กันก็อาจหาข้อมูลเพื่อประกอบการวางแผนได้ยากหน่อย แต่ความยากนี่แหละคือแรงกระตุ้นและเสน่ห์ชั้นดีที่ช่วยเพิ่มแพสชั่นให้กับเรา พอหาข้อมูลไปเที่ยวประเทศแปลกใหม่ได้มันก็จะรู้สึกภูมิใจหน่อยๆ

ดังนั้น หากกำลังมองหาประเทศใหม่ๆ ที่อาจยังไม่ได้อยู่ในกระแสหลัก แต่จริงๆ มีความสวยงามเฉพาะตัวน่าค้นหา
อีกทั้งค่าครองชีพและค่าเดินทางยังไม่สูงเท่าไหร่ ไปเที่ยวเองแล้วไม่เดือดร้อนเงินในกระเป๋ามากนัก นี่คือจุดหมายที่ “เที่ยวเอง” คัดเลือกและภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างมาก

Bosnia & Herzegovina

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อประเทศนี้จากเหตุสงครามที่กินเวลาหลายปีในช่วงทศวรรษ 90 อาจติดภาพความโหดร้ายรุนแรงและคิดว่าประเทศนี้อันตรายน่ากลัวไม่น่าไป แต่อยากบอกว่าบอสเนียฯ มีอะไรให้ค้นหาเพียบ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม รวมไปถึงธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์แบบสุดๆ

บอสเนียฯ เป็นประเทศที่แยกตัวมาจากอดีตประเทศยูโกสลาเวียเมื่อปี 1995 เพราะความแตกต่างของเชื้อชาติและศาสนา โดยชาวบอสเนียนส่วนมากนับถือศาสนาอิสลาม แต่กว่าจะแยกตัวเป็นอิสระได้ต้องเผชิญกับเหตุสงครามยาวนานตามที่หลายคนรู้กัน ร่องรอยความบอบช้ำในครั้งนั้นยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไปตามสถานที่ต่างๆ และเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจถึงบทเรียนในอดีตได้เป็นอย่างดี

ประเทศนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่าน ทางมุมตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ด้านเหนือและตะวันตกติดกับโครเอเชีย ด้านตะวันออกติดกับเซอร์เบีย และด้านใต้ติดกับมอนเตเนโกร มีทางออกทะเลแคบๆ ที่เมือง Neum โดยการเดินทางเข้าบอสเนียฯ ต้องทำวีซ่าของบอสเนียฯ เองซึ่งยุ่งยากพอสมควร แต่วิธีการง่ายที่สุดคือใช้วีซ่าเชงเก้นแบบ multiple entries ที่สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 15 วันเข้าได้

เมืองที่น่าสนใจมีหลายเมือง เริ่มตั้งแต่เมืองหลวงอย่างกรุง Sarajevo ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ยุคสงคราม แต่ก็ยังมีความเจริญซ่อนตัวอยู่เช่นกัน หมู่บ้าน Blagaj ที่มีไฮไลต์จากสำนักบวชโบราณตามแนวผนังถ้ำอันเป็นเอกลักษณ์ ต่อด้วย Mostar อีกเมืองท่องเที่ยวชื่อดังที่เหมือนหลุดเข้าไปยุคออตโตมันโบราณจริงๆ ทุกอย่างยังคงความเก่าแก่ที่มีเสน่ห์มากๆ และปิดท้ายด้วย Jajce เมืองทางตอนในที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรป่าสีเขียวและน้ำตกอันทรงพลัง บอกเลยว่าวิวสองข้างทางก่อนถึงเมืองนี้สวยงามไม่ต่างจากสวิตเซอร์แลนด์หรือนอร์เวย์

สำหรับค่าครองชีพก็นับว่าไม่ต่างจากเมืองไทย ค่าอาหาร ที่พัก และค่าเดินทางราคาใกล้เคียงกันมาก จึงจัดได้ว่าเป็นอีกประเทศที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่มีงบไม่สูงมากนัก

Sarajevo - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์Mostar - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์Mostar2 - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์Jajce - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์Blagaj - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์

Armenia

ประเทศเก่าแก่บนแนวเทือกเขาคอเคซัสที่แยกตัวจากอดีตสหภาพโซเวียตเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 90 เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่รู้จักและไม่รู้ว่ามีอะไรให้เที่ยวบ้าง แต่จริงๆ อาร์เมเนียเต็มไปด้วยโบราณสถานโดยเฉพาะที่เกี่ยวโยงกับศาสนาคริสต์ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO มากมาย โดยอาร์เมเนียได้ชื่อว่าเป็นดินแดนคริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

แม้ทำเลที่ตั้งจะค่อนมาทางทวีปเอเชีย แต่อาร์เมเนียถือเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป ทิศเหนือติดกับจอร์เจีย ด้านตะวันออกติดกับอาร์เซอร์ไบจาน ด้านตะวันตกติดกับตุรกี และทิศใต้ติดกับอิหร่าน โดยเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ก็ยังคงมีทรัพยากรน้ำสมบูรณ์จากทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อ Sevan

การเดินทางเข้าอาร์เมเนียต้องมีวีซ่าซึ่งสามารถทำได้ทั้ง on arrival ที่พรมแดนและสนามบินหรือทำออนไลน์ล่วงหน้าก็ได้ ส่วนมากคนจะนิยมเดินทางเข้ามาจากจอร์เจียซึ่งเป็นประเทศที่คนไทยเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเพราะไฟลท์บินเข้ากรุง Yerevan เมืองหลวงนั้นมีไม่มาก รวมทั้งเวลายังไม่ค่อยดีอีกด้วย

อย่างที่บอกว่าประเทศนี้โดดเด่นจากแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่ามากมายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจคงหนีไม่พ้นสำนักบวชโบราณ สถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ KhorVirap ซึ่งมีแนวภูเขา Ararat ที่เกี่ยวโยงกับตำนานเรือโนอาห์เป็นฉากหลัง หรือจะเป็นเมือง Vagharshapat เมืองเก่าแก่ที่รายล้อมด้วยศาสนสถานมรดกโลกหลายแห่ง รวมไปถึงเมืองหลวงอย่างกรุง Yerevan ที่มีกลิ่นอายโซเวียตผสมกับบรรยากาศแบบอาร์เมเนียนดั้งเดิมได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติสุดสบายตาของทะเลสาบ Sevan และเมืองในหุบเขาอย่าง Ijevan อีกเป็นอีกตัวเลือกสำหรับผู้รักธรรมชาติ

ในส่วนของค่าครองชีพนั้นถือว่าถูกมาก โดยรวมแล้วเท่าๆ กับเมืองไทยเลย จะมีแต่ค่าที่พักใจกลางเมืองจะค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ค่ากินอยู่และค่าเดินทางนั้นสบายกระเป๋ามากๆ

Yerevan - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์Khor Virap - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์Vagharshapat - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์Ijevan - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์Sevanavank - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์

Morocco

ประเทศมุสลิมบนแนวเทือกเขาแอตลาสในทวีปแอฟริกา โมร็อกโกเปี่ยมเสน่ห์ด้วยบ้านเมืองที่หลากหลายตามลักษณะของแต่ละภูมิประเทศ ศาสนสถานอิสลามสุดยิ่งใหญ่ บรรยากาศทะเลทรายซาฮาราเวิ้งว้างกว้างใหญ่ รวมถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของคนพื้นเมือง โมร็อกโกเป็นหนึ่งในไม่กี่ชาติของแอฟริกาที่ยังมีกษัตริย์ปกครองประเทศมาจนถึงปัจจุบัน

โมร็อกโกตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา ทางเหนือติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตรงข้ามกับประเทศสเปน ทิศตะวันออกติดประเทศแอลจีเรีย ตะวันตกติดมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นแนวยาว และทางใต้ติดกับดินแดนซาฮาราตะวันตก

เชื่อว่าหลายคนคงอยากไปประเทศนี้แต่อาจกังวลเรื่องความปลอดภัยและความไม่สะดวกในการเดินทางภายในประเทศ จริงๆ แล้วสามารถเที่ยวโมร็อกโกเองได้โดยใช้รถไฟและซื้อทัวร์ท้องถิ่นเข้าทะเลทรายซาฮารา หรือจะเช่ารถขับก็สะดวกไม่น้อยและไม่ได้แพงอะไร ค่าครองชีพโดยรวมใกล้เคียงกับเมืองไทย นั่งแท็กซี่ในเมืองราคาแพงกว่านั่งในกรุงเทพฯ นิดหน่อย ถ้าไม่อยากบินไกลแล้วเที่ยวได้แค่ประเทศเดียวก็สามารถขอวีซ่าเชงเก้นแล้วไปเที่ยวสเปนและโปรตุเกสพ่วงในทริปนี้ได้ด้วย

เมืองหลักๆ ที่น่าไปเที่ยวเมืองแรกคือ Casablanca คาซาบลังก้าเป็นที่หมายแรกที่มีไฟลท์บินจากเมืองต่างๆ มาลงและเป็นที่ตั้งของมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาและใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก Rabat เมืองหลวงที่ให้บรรยากาศแบบชายฝั่งแอฟริกาตะวันตก Marrakech เมืองท่องเที่ยวชื่อดังที่สุดของประเทศซึ่งเป็นต้นทางสำหรับท่องทะเลทรายซาฮารา ปิดท้ายด้วย Chefchaouen เมืองสีฟ้าหวานใสทางภาคเหนือที่น่าเดินเที่ยวสุดๆ

Avenue Mohammed V Rabat - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์ Chefchaouen - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์ Grande Mosquée Hassan II Casablanca - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์ Mosquée Koutoubia Marrakech - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์ Souk Semmarine Marrakech - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์

Lithuania

อีกประเทศเกิดใหม่ที่แยกตัวมาจากสหภาพโซเวียตซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มประเทศบอลติกที่ประกอบไปด้วย Estonia, Latvia และ Lithuania ส่วนตัวคิดว่าลิทัวเนียเป็นประเทศในยุโรปที่หลายคนยังไม่รู้จักและอยู่นอกสายตามากๆ อาจเพราะไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์แบบแลนด์มาร์คและไม่ได้อยู่ในโซนประเทศที่เป็นจุดหมายท่องเที่ยวหลัก

แต่ถ้าใครที่ชอบบรรยากาศแบบโซเวียตที่ผสมความทันสมัยตามแบบฉบับบอลติก มีอาคารสวยงามให้ได้ชื่นชม ใช้วีซ่าเชงเก้นและเงินสกุลยูโร แต่ค่าครองชีพถูกกว่ายุโรปตะวันตกเป็นเท่าตัว แถมด้วยความแปลกใหม่ ปลอดภัย และยังไม่เป็นการค้ามากนัก บอกเลยว่าประเทศนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

ลิทัวเนียตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ด้านบนติดกับลัตเวีย ด้านตะวันออกติดกับเบลารุส ด้านตะวันตกเป็นทะเลบอลติกและ Kaliningrad ที่เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และด้านใต้ติดกับโปแลนด์ นักท่องเที่ยวส่วนมากจะจัดทริปพ่วงกันเป็น Baltic Trip ได้แก่ ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ซึ่งอาจรวมถึงโปแลนด์ด้วย

สำหรับเมืองที่น่าสนใจ นอกจากกรุง Vilnius เมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์รวมความเจริญทุกอย่างของประเทศแล้ว เมืองที่ภูมิใจนำเสนอมากๆ คือ Trakai ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง นั่งรถบัสออกมาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ไฮไลต์ของเมืองนี้อยู่ที่ Trakai Castle ปราสาทยุคกลางบนเกาะกลางทะเลสาบที่เหมือนฉากในการ์ตูนเทพนิยาย ยอมรับว่าเห็นของจริงคืออ้าปากค้างตกตะลึงเพราะมันคลาสสิกย้อนยุคดูดีมีระดับมากๆ

Vilnius1 - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์ Vilnius2 - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์Trakai1 - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์ Trakai2 - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์ Vilnius3 - เปิดโลกที่แตกต่าง…เที่ยวต่างแดนแบบไม่ตามเทรนด์