“ออสเตรีย” ประเทศในยุโรปตอนกลางที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สถาปัตยกรรมบ้านเรือนอันคลาสสิก หรือธรรมชาติของขุนเขาและป่าไม้อันบริสุทธิ์และอุดมสมบูรณ์ แต่โดยมากแล้วผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในออสเตรียมักเลือกไปเฉพาะเมืองสำคัญหรือแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ มากกว่า อาทิ กรุงเวียนนา เมืองหลวง ซาลซ์บวร์ก เมืองแห่ง The Sound of Music อินน์สบรูก เมืองในหุบเขา
แอลป์ รวมไปถึง ฮัลล์สตัตท์ หมู่บ้านเทพนิยายริมเวิ้งน้ำ ดังนั้นในบทความนี้จึงขอนำเสนอเมืองหรือหมู่บ้านอื่นๆ ที่น่าไปบ้าง เผื่ออาจเป็นทางเลือกแปลกใหม่ในทริปต่อไปของคุณ
Kitzbühel
เมืองเล็กๆ แสนคลาสสิกท่ามกลางขุนเขาแห่งรัฐ Tirol ทางตะวันตกของประเทศ ห่างจาก Innsbruck เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของออสเตรียมาทางตะวันออกราว 100 กิโลเมตร เมืองที่สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางแห่งนี้มีชื่อเสียงจากการเป็นเมืองกีฬาฤดูหนาวที่ฮอตฮิตที่สุดแห่งหนึ่งในเขตเทือกเขาแอลป์เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ระหว่างภูเขา Hahnenkamm กับ Kitzbühler Horn ซึ่งมีความสูง 5,616 ฟุต และ 6,548 ฟุตตามลำดับ สกีรีสอร์ทแต่ละแห่งเปรียบเสมือนสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมฤดูหนาวทั้งหลาย โดยเป็นหนึ่งในสถานที่จัดการแข่งขันสกีชิงแชมป์โลกซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสเตจที่ท้าทายความสามารถของนักสกีเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ในช่วงหน้าร้อนเมืองดังกล่าวยังเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเทนนิส ATP Tour คอร์ทดินรายการ Austrian Open อีกด้วย
การเดินทางมา: รถไฟจากเมือง Innsbruck มาเปลี่ยนที่ Wörgl ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
St. Wolfgang im Salzkammergut
อดีตศูนย์กลางการค้าของประเทศ Austria ที่ตั้งอยู่ในแคว้น Upper Austria ทางตอนกลางของประเทศ เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งด้านเหนือของทะเลสาบ Wolfgangsee บริเวณเชิงเขา Schafberg แห่งนี้โด่งดังจากการเป็นเมืองพักผ่อนยอดนิยม โดยเฉพาะที่โรงแรม Weißes Rössl หรือ White Horse Inn ที่มีชื่อเสียงไปทั่วยุโรป อีกทั้งสถาปัตยกรรมของโบสถ์โกธิคยุคปลายที่อกกแบบโดย Michael Pacher ก็เป็นเสน่ห์สำคัญของเมืองอีกแห่ง นอกจากนี้ธุรกิจสปาและสกีรีสอร์ทก็ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ของเมืองท่องเที่ยวนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
การเดินทางมา: รถบัสจากเมือง Salzburg มาเปลี่ยนที่ Strobl ใช้เวลาเดินทางรวมราว 1 ชั่วโมง 50 นาที
Gosau
ชุมชนเล็กๆ บนแนวเทือกเขาแอลป์ระดับความสูง 767 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในเขตการปกครอง Gmunden รัฐ Upper Austria ทางตอนกลางของประเทศ ชุมชนที่มีผู้คนตั้งรกรากมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 แห่งนี้โดดเด่นด้วยธรรมชาติของป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึงประมาณ 60 เปอร์เซนต์ของเขตชุมชน พร้อมทั้งความชุ่มชื้นจากลำธาร Gosaubach โดยประชากรที่ส่วนมากนับถือศาสนาคริสต์นิกายลูเธอรันนิยมประกอบอาชีพทำเหมืองเกลือมาตั้งแต่อดีต แต่ปัจจุบันการท่องเที่ยวเริ่มเป็นรายได้หลักของคนในชุมชน
การเดินทางมา: รถไฟจากเมือง Salzburg มาเปลี่ยนที่ Golling-Abtenau ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที
Rattenberg
เมืองในเขตการปกครอง Kufstein ในแคว้น Tyrol ทางตะวันตกของประเทศ เมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Inn บริเวณเชิงเขา Rattenberg แห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมดเพียง 0.11 ตารางกิโลเมตร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีขนาดเล็กที่สุดของประเทศ โดยภายในเขตเมืองเก่ายังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายสมัยยุคกลางที่รายล้อมด้วยอาคารสไตล์แคว้นทิโรลหลากสีสันซึ่งบางส่วนเปิดเป็นร้านขายแก้วและคริสตัลมากมาย ในช่วงฤดูหนาวเมืองดังกล่าวมักประสบกับภาวะขาดแสงอาทิตย์เนื่องจากถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ในแคว้น
การเดินทางมา: รถไฟจากเมือง Innsbruck ใช้เวลาเดินทางราว 45 นาที
Heiligenblut am Großglockner
ชุมชนในเขตการปกครอง Spittal an der Drau ในรัฐ Carinthia ทางตอนกลางของประเทศ ชุมชนที่ตั้งอยู่ติดกับเขตรัฐ East Tyrol แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของดอกไม้ ทุ่งหญ้า และขุนเขา ตามแบบฉบับชุมชนในหุบเขาอัลไพน์ โดยด้านหลังชุมชนโดดเด่นด้วยแนวเขา Grossglockner ซึ่งเป็นภูเขาที่มีความสูงที่สุดในประเทศ สัญลักษณ์สำคัญของชุมชนอีกอย่างคงหนีไม่พ้น St.Vinzenz church โบสถ์สถาปัตยกรรมแบบโกธิคตอนปลายใจกลางชุมชนที่ประดับตกแต่งด้านในด้วยสไตล์ไบเซนไทน์
การเดินทางมา: สะดวกที่สุดคือขับรถมาจากเมือง Innsbruck หรือ Salzburg ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
Bad Gastein
เมืองในเขตการปกครอง St. Johann im Pongau แห่งรัฐ Salzburg ทางตอนกลางของประเทศ เมืองที่มีอาณาเขตประมาณ 171 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ตั้งอยู่บนแนวภูเขา Hohe Tauern ความสูง 1,002 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางการทำสปาน้ำแร่เพื่อสุขภาพมาตั้งแต่ช่วงยุคกลาง เมืองดังกล่าวยังมีชื่อเสียงจากน้ำตก Gastein ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง รวมทั้งอาคารโรงแรมหรูที่สร้างขึ้นในยุค Belle Époque คือช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ต่อต้นศตวรรษที่ 20 ที่มีอยู่มากมายในเขตเมือง
การเดินทางมา: รถไฟจากเมือง Salzburg ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
Kaprun
ชุมชนในเขตการปกครอง Zell am See ในรัฐ Salzburg ทางตอนกลางของประเทศ ชุมชนซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่
นักท่องเที่ยวว่า “Zell am See-Kaprun” แห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ลาดเชิงเขาทางตอนเหนือของกลุ่มเทือกเขา Alpine Glockner ซึ่งมียอดเขา Großes Wiesbachhorn เป็นจุดสูงสุดในระดับความสูง 3,564 เมตร โดยชุมชนดังกล่าว
มีชื่อเสียงจากธารน้ำแข็ง Kitzsteinhorn ที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้รถไฟสาย Gletscherbahn ขึ้นไปเล่นสกี ช่วงปลายปี 2010 Tauern Spa World รีสอร์ทสปาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดลำดับ 2 ของออสเตรียได้เปิดให้บริการในชุมชนแห่งนี้ ซึ่งนับเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
การเดินทางมา: รถไฟจากเมือง Salzburg มาที่ Zell am See แล้วต่อรถบัส ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 2 ชั่วโมง
Sölden
เมืองสกีรีสอร์ทชื่อดังในรัฐ Tyrol ทางตะวันออกของประเทศ ห่างจากเมือง Innsbruck 90 กิโลเมตร และจากเมือง Ötztal ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดประมาณ 40 กิโลเมตร เมืองท่องเที่ยวสำหรับหน้าหนาวที่เป็นสวรรค์ของนักสกีแห่งนี้ล้อมรอบด้วย The big 3 แห่งเทือกเขาแอลป์ นั่นคือ Schwarze Schneide, Gaislachkogel และ Tiefenbachkogel ซึ่งล้วนมีความสูงเกินกว่า 3,000 เมตร การขึ้นไปยังยอดเขาแต่ละแห่งมีบริการลิฟท์ความเร็วสูงที่ส่วนมากจะเต็มตลอดทั้งวัน จากยอดเขาสามารถมองลงไปเห็นดินแดนของอิตาลีได้ รวมทั้งธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของออสเตรียที่ยาวทั้งหมด 147 กิโลเมตร
การเดินทางมา: รถไฟจากเมือง Innsbruck มาที่ Ötztal แล้วต่อรถบัส ใช้เวลาเดินทางรวมราว 1 ชั่วโมง 45 นาที
Maria Alm
Maria Alm am Steinernen Meer หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Maria Alm ชุมชนในเขตการปกครอง Zell am See แห่งรัฐ Salzburg ทางตอนกลางของประเทศ ห่างจากเมือง Saalfelden ไปทางตะวันออกประมาณ 5 กิโลเมตร ชุมชนที่ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 802 เมตรแห่งนี้มีชื่อเสียงจากการเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในช่วงฤดูหนาว โดยในเขตชุมชนมีพื้นที่สำหรับเล่นสกีมากมายถึงกว่า 30 แห่ง นอกจากนี้ยังเป็นจุดหมายปลางของนักเดินเขา นักปีนเขา และนักปั่นจักรยานเสือภูเขา อีกด้วย ในเขตเมืองยังดึงดูดด้วย Sommerstein Pool ศูนย์น้ำขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นสำหรับกลุ่มครอบครัวโดยเฉพาะ
การเดินทางมา: รถบัสจากเมือง Salzburg มาที่ Saalfelden Postamt แล้วต่อรถบัสอีกคัน ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 2 ชั่วโมง
*ห้ามคัดลอกหรือดัดแปลงข้อมูลและรูปภาพเพื่อนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต